ตลาดหุ้นไทย เปิดตลาดวันนี้ บวก 7.75 จุด ดัชนีที่ 1,256.07 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.62 % ดัชนีปรับสูงสุด 1,256.19 จุด ดัชนีปรับต่ำสุด 1,254.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,624.26 ล้านบาท และเมื่อเวลา 11.15 น. ของวันนี้ ดัชนีบวกขึ้นไป 9.12 จุด แตะที่ 1,257.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10,190.28 ล้านบาท
โดยวันนี้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นนิวยอร์ก ที่ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ บวก 69.07 จุด หรือ 0.52% ที่ 13,323.36 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิด บวก 4.48 จุด หรือ 0.31% ที่ 1,433.56 จุด และดัชนีแนสแดก ปิดบวก 0.50 จุด หรือ 0.02% ที่ 3,104.53 จุด เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีในบ่ายวันนี้ จะวินิจฉัยให้เยอรมนีมีส่วนร่วมในการจัดตั้งกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM)
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ในการประชุมในวันนี้และวันพรุ่งนี้ หลังข้อมูลรายงานบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 96,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้ว่า น่าจะปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐ โดยอาจขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,260 จุด จากปัจจัยสนับสนุน ทั้งเรื่องผลตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมันที่ตลาดฯมองว่าอาจไฟเขียวจัดตั้งกองทุน ESM หลังจากรัฐสภาเยอรมันอนุมัติมาแล้วก่อนหน้านี้ และเรื่องการประชุมธนาคารกลางสหรัฐที่อาจใช้นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงเป็น sentiment ที่ดีของตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นอื่นในเอเชียให้ปรับตัวขึ้น โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่ 1,245-1,260 จุด
ข่าวเด่น