ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
นายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่ยืนยัน ปทุมธานี นนทบุรี น้ำจะท่วมหรือไม่ เพราะมีปัจจัยเรื่องร่องความกดอากาศเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่ ผอ.ศูนย์เตือนภัย ยืนยันสวนทาง น้ำไม่ท่วมปทุมฯ นนท์ กทม.


ขณะที่ น.อ. สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ยืนยันว่า “ ปีนี้น้ำจะไม่ท่วมปทุมธานี และ จ.นนทบุรี รวมถึงกรุงเทพฯ”  เหมือนเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการระดบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดปริมาณน้ำ  แต่ทางด้านนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับไม่ยืนยันว่า จ.ปทุมธานี และนนทบุรี จะเกิดน้ำท่วมหรือไม่ เนื่องจากมีปัจจัยในส่วนของร่องความกดอากาศและสภาพอากาศ

โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ปริมาณน้ำที่เกิดจากการระบายน้ำ เราเองจะพยายามควบคุม แต่ถ้าเป็นกรณีของร่องความกดอากาศหรือปริมาณน้ำฝนที่มีเยอะ ก็อาจจะมีบ้างในการท่วมขังบางพื้นที่ หรือที่เรียกว่า “น้ำท่วมฉับพลัน”  แต่การระบายก็คงทำได้เร็วกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน เรียกได้ว่าดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่าปีที่ผ่านมา

ฉะนั้นจึงไม่สามารถระบุได้ว่า พื้นที่ปลายน้ำทั้งจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานีจะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วม  เนื่องจากยังมีปัจจัยในส่วนของร่องความกดอากาศและสภาพอากาศ แต่ทั้งนี้รัฐบาลได้เตรียมการและวางแผนรองรับการไหลของน้ำที่จะลงมาจากน้ำตอนเหนือ

โดยจะดูเหตุการณ์วันที่ 13 ก.ย.นี้ ว่าสถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ โดยได้สั่งให้เตรียมตั้งรับในกรณีน้ำที่ จ.แพร่ และ จ.สุโขทัย ที่จะไหลลงมา และตั้งรับจังหวัดอื่นๆด้วย แทนที่จะรอให้น้ำมา ก็จะมีการเตรียมการล่วงหน้า ซึ่งได้สั่งการไปหมดแล้ว และวันที่ 13 ก.ย.นี้จะลงพื้นที่เพื่อติดตามดูการเตรียมงาน

“ขณะนี้ได้สั่งการให้คณะกรรมการบริการจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ประเมินสถานการณ์และติดตามเส้นทางการไหลของน้ำที่จะไหลลงมาจาก จ.แพร่ และ จ.สุโขทัย ตลอดจนการดูแลพื้นที่รับน้ำตอนล่างลงมา ซึ่งสถานการณ์น้ำในเขื่อนขณะนี้ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก และเชื่อว่าปริมาณน้ำในปีนี้ยังไม่มากเท่าปีที่ผ่านมา”น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุ

ด้าน น.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมทางตอนบนของประเทศเริ่มมีปริมาณลดลงแล้ว เนื่องจากฝนตกทางภาคเหนือเริ่มหยุดตก การระบายน้ำเป็นไปตามแผน ซึ่งน้ำจากทางภาคเหนือได้ไหลลงมาตามลำน้ำผ่าน จ.พิษณุโลก และจ.สุโขทัย  อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดน้ำท่วมตัวเมืองสุโขทัย เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุน้ำมุดดินขึ้นมาจนทำให้เกิดน้ำท่วม ทั้งๆที่กำแพงกั้นน้ำยังสามารถรับปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งอุดจดที่น้ำลอดใต้ดินขึ้นมา คาดใช้เวลาประมาณ 2 วัน

ส่วนกรณีน้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดจากปริมาณน้ำฝนที่มีมาก ขณะที่หม้อแปลงเครื่องสูบน้ำระเบิดทำให้ไม่สามารถสูบน้ำออกจากถนนได้ ซึ่งสามารถแก้ไขสถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติได้ในเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา
น.อ.สมศักดิ์กล่าวยืนยันตอนท้ายถึงข้อกังขาของหลายคนที่ว่า แล้วปีนี้กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี จะท่วมหรือไม่ว่า “ผมว่าไม่ท่วมครับ แม้ปีนี้จะมีปริมาณฝนมาก แต่เมื่อเทียบกับเกณฑ์เฉลี่ยของน้ำฝน พบว่ามีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าที่แล้วประมาณ 30% ขณะที่ปีนี้มีการระบายน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อลดปริมาณน้ำ”


 
 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 ก.ย. 2555 เวลา : 19:30:57

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:51 am