พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผกก.สภ.หาดใหญ่ กล่าวว่า  หญิงเสียสติ อายุประมาณ 30 - 35 ปี ใช้มีดพร้าไล่ฟัน คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ เป็นประธาน กมธ.และมีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ร่วมคณะอยู่ด้วย ซึ่งคณะของกรรมาธิการตำรวจได้เดินทางมาเพื่อประชุมเรื่องบ่อนการพนันในพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดบนสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่  ทำให้เลขาฯส่วนตัวของ นายชูวิทย์ถูกฟันเป็นแผลฉกรรจ์เย็บหลายเข็ม
 
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ หญิงคนดังกล่าวถูกตำรวจจับกุมเนื่องจากไปแย่งปืนจากตำรวจท่องเที่ยวหาดใหญ่ และถูกนำตัวมาดำเนินคดีที่โรงพัก แต่เกิดคลุ้มคลั่งขู่จะฆ่าตัวตาย และปีนขึ้นไปบนแท้งค์น้ำของโรงพักจะกระโดดลงมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเกลี้ยกล่อมได้อีกครั้ง
 แต่เมื่อหญิงคนดังกล่าวพอเห็นคณะของกรรมาธิการตำรวจ ก็ตรงใช้มีดพร้า ซึ่งไม่ทราบว่านำมาจากไหนฟันที่ศีรษะเลขาฯของนายชูวิทย์  ล่าสุดนำตัวไปสงบสติอารมณ์พร้อมแจ้งข้อหาแล้ว

นายชูวิทย์ กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบสองจุดในช่วงเช้าแล้ว ก็ไปร่วมประชุมกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดสงขลา ที่สภ.หาดใหญ่ หลังการประชุมเสร็จ ขณะที่ กมธ.ตำรวจกำลังร่ำลากับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งผู้การจังหวัด ผู้กำกับสภ.หาดใหญ่ ปรากฏว่ามีหญิงสาววัย 30 ปีเศษ พุ่งตรงเข้ามาที่ตน แต่มีลูกน้องของตนขวางทางอยู่ พร้อมใช้มีดพร้าฟันเข้าที่ศรีษะด้านขวา ระหว่างหางคิ้วกับทัดดอกไม้ของนายเทพทัต บุญทัศนานนท์ ผู้ช่วยส.ส.ของตนถึง 2 ครั้ง และพยายามฟันคนติดตามของตนอีก 1 คน แต่บังเอิญหลบทัน ท่ามกลางความตกใจของนายตำรวจกว่า 20 คนที่ยืนอยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยผู้กำกับได้กระโดดจับตัวหญิงสาวคนดังกล่าวไว้ ส่วนตนก็รีบพาตัวลูกน้องคนเจ็บที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่เพราะเลือดไหลออกมาจำนวนมาก
        
 นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ลูกน้องตนถึงมือหมอแล้วโดยต้องเย็บมากถึงไป 17 เข็มจากบาดแผลที่เหนือขมับขวาสูงกว่าทัดดอกไม้เป็นแผลฉกรรจ์ และเสียเลือดมาก แม้แพทย์เจ้าของไข้จะแจ้งว่า เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว แต่ต้องให้นอนรักษาตัวและรอดูอาการบวมของบาดแผลและสมองก่อนว่าได้รับการกระทบกระเทือนมากน้อยหรือไม่ อย่างไร เพราะถูกฟันบริเวณสำคัญ สำหรับผู้ก่อเหตุ ตนยังไม่ทราบว่าชื่ออะไร ทราบแต่เพียงว่า ตำรวจหาดใหญ่ต่างบอกว่าเป็นคนบ้า เพราะช่วงเช้าก่อนการประชุม ได้เห็นหญิงคนดังกล่าวเข้าแย่งปืนของตำรวจสายตรวจที่หน้าสภ. และถูกจับกุมตัวไปแล้ว ต่อมาตำรวจได้ปล่อยตัวออกมาและให้เงิน 500 เพื่อให้เดินทางกลับบ้าน ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า ในเมื่อระบุว่าเป็นคนเสียสติ ทำไมถึงปล่อยตัวออกมา และสงสัยว่า นำมีดพร้ามาจากไหน อีกทั้งตั้งใจตรงดิ่งมาทำร้ายคนของตน หรือตน โดยตรงเพราะมีกมธ.ตำรวจและคณะอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ตนตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า อาจมีการว่าจ้าง เพราะตนไปเหยียบตาปลาใครหรือไม่ ในการเปิดเผยเรื่องบ่อนการพนัน การค้าประเวณีของร้านอาหารในเมืองหาดใหญ่ ทั้งนี้จะติดตามให้ถึงที่สุด