สรุปภาวะวันก่อน : SET +2.42 จุด ขึ้น 2 วันติด Funds flow หนุน
หุ้นไทยยังปิดแดนบวกเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน แม้ระหว่างวัน มีแรงขายทำกำไรกด SET ติดลบในบางช่วงของการซื้อขาย แต่แนวโน้มเงินนอกยังไหลเข้าต่อเนื่อง หลัง FED กระตุ้นศก.ด้วยการออก QE3 ไม่จำกัด กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีขึ้นนำตลาด ต่างชาติซื้อสุทธิ 552 ลบ. MTD ซื้อสุทธิสะสม 3.95 พันลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลง กังวลรมต.คลัง EU ไม่ลงตัวดูแลภาคแบงก์
หุ้นโลกเมื่อคืนเผชิญแรงขายทำกำไร หลังผิดหวังการประชุมรมต.คลัง EU ล้มเหลวการกำหนดเวลาการกำกับดูแลภาคธนาคารให้เอกภาพเดียวกัน และไม่ได้ข้อตกลงร่วมกันในร่างแผนสำหรับประเทศที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือ นอกจากนี้ผลสำรวจภาคการผลิต (Empire Manufacturing) ของสหรัฐฯ ยังแย่ลงมากด้วย จากเดิม -5.85 ในเดือน ส.ค. มาที่ -10.41 ในเดือน ก.ย. เทียบกับตลาดคาดที่ -2 รวมทั้งโบรกเกอร์และสถาบันการเงินชั้นนำของโลกกำลังการหั่นคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจในปีนี้จีนลงต่อเนื่อง คาด SET มีโอกาสปรับลงจากแรงขายทำกำไร มีแนวต้าน 1282-1285 จุด แนวรับที่ 1270-1275 จุด
กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นหาจังหวะลดพอร์ต อ่อนตัวรอซื้อเทรดดิ้งสั้น
เรามอง upside ของ SET ในระยะสั้นยังจำกัด จากการประเมินมูลค่าตึงตัว พอร์ตลงทุนเรายังแนะนำให้หาจังหวะขายทำกำไรแล้ว พอร์ตเล่นสั้นรออ่อนตัวซื้อ เพื่อเทรดดิ้งสั้น ระมัดระวัง SET ไม่ควรหลุด 1270 เพราะจะดูไม่ดี เรามองกองทุน Trigger Fund จะเริ่มทยอยปิดตัวในสัปดาห์นี้หลายกอง สำหรับนลท.สามารถถือและรับความเสี่ยงในระยะสั้นได้แนะนำหุ้น high Beta แต่ราคายัง laggards อาทิ BANPU, LANNA, SGP, SCC, TPIPL หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก QH, SAMART, TGCI, UAC
หุ้นเด่นเล่นสั้น : LANNA , SAMART
LANNA – เป็นหุ้น high Beta ที่ราคายัง laggards อยู่ น่าจะวิ่งตามหุ้นใหญ่อื่นๆ อย่าง BANPU ได้ไม่ยาก ผลประกอบการ 2Q55 ดีกว่าตลาดคาด กำไรสุทธิ 345 ลบ. เพิ่มขึ้น 16% YoY และ 27% QoQ จากธุรกิจถ่านหินและเอทานอลแข็งแกร่ง ส่วนแนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่องใน 3Q55 โดยเฉพาะธุรกิจเอทานอลเนื่องจาก
บริษัทมีวัตถุดิลโมลาสในระดับต่ำไว้แล้ว ราคาถ่านหินเริ่มทรงตัวในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา บริษัทน่าจะได้ข้อสรุปซื้อเหมืองใหม่ภายในสิ้นปีนี้ มูลค่าเหมาะสม 30 บ. (CONSENSUS)
SAMART – เป็นหุ้นดีที่ไม่ควรมองข้าม ผลงาน SAMART กำไร 6M55 ที่ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% YoY คาดแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งแรก จากการรับรู้รายได้ของบริษัทลูก (SAMTEL) จะเพิ่มขึ้นจากงานโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ให้กับ TOT นอกจากราคาหุ้นจะ laggard กว่าหุ้นลูกแล้ว ยังมีมูลค่าแฝงจากการถือหุ้น SAMTEL และ SIM ที่ 61% และ 58% ตามลำดับ หรือต่ำกว่าความเป็นจริงตามราคาตลาดถึง 1.50 บาท upside 16% มูลค่าเหมาะสม 11.7 บ. (CONSENSUS)
ปัจจัยติดตาม
18-19 ก.ย. TH ตัวเลขยอดขายรถยนต์ของไทยในเดือน ส.ค.
JP ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
18 ก.ย. US เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของต่างชาติในเดือน ก.ค.
US ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านของสหรัฐฯ (NAHB) ในเดือน ก.ย.
UK ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษในเดือน ส.ค.
NA เนเธอร์แลนด์จะพิจารณาอนุมัติงบประมาณปี 2013
GE-EU ตัวเลขผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจ (ZEW Survey) ของเยอรมันและกลุ่มยูโรโซนในเดือน ก.ย.
GA-SP ประมูลตั๋วเงินคลังกรีซและสเปน
19 ก.ย. US ตัวเลขการเริ่มและอนุญาตสร้างบ้านของสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค.
US ตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค
ข่าวเด่น