สภาวะตลาดวันที่ 20 กันยายน 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,758.19 – 1,771.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV12 อยู่ที่ 26,000 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 26,040 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV12 อยู่ที่ 1,069 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 3 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,072 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.30 น.ของวันที่ 20/09/12)
แนวโน้มวันที่ 21 กันยายน 2555
ราคาทองคำตลาดโลกอ่อนตัวลดลงตามราคาน้ำมันที่ร่วงอย่างหนักหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาด ทั้งนี้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลงติดต่อกันหลายวัน ซึ่งได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าซาอุดิอาระเบียอาจจะเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นต้นของจีน ซึ่งจะเปิดเผยโดย HSBC ในเดือนกันายนอยู่ที่ระดับ 47.8 ซึ่งตัวเลขยังคงต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนยังคงซบเซาและหดตัวลง ซึ่งภาคการผลิตของจีนหดตัวลงเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน และเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอการเติบโตลงเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน ประกอบกับ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซิ้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.9 ในเดือนกันยายน จาก 46.3 ในเดือนสิงหาคมซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน อยู่ในภาวะหดตัวเช่นกัน โดยปัจจัยที่เข้ามาชี้นำราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงกดดันราคาทองคำให้มีการปรับตัวลงแต่การอ่อนตัวลงของราคาทองคำค่อนข้างจำกัดและราคามีลักษณะของการเคลื่อนไหวในกรอบ ขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ว่าสเปนจะขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศหรือไม่และเมื่อใด
เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำยังคงมีการเคลื่อนไหวของราคาออกมาในลักษณะแกว่งตัวในกรอบ Sideway โดยกรอบบนประเมินราคาทองคำบริเวณแนวต้าน 1,777 หรือ 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และประเมินกรอบด้านล้างบริเวณแนวรับที่ 1,752 หรือ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway โดยให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้สามารถเข้าซื้อบริเวณแนวรับที่ 1,752 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,777 หรือ 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,793 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,752 (25,620บาท) 1,745 (25,510บาท) 1,740 (25,440บาท)
แนวต้าน 1,777 (25,980บาท) 1,784 (26,090บาท) 1,793 (26,220บาท)
GOLD FUTURES (GFV12)
แนวรับ 1,752 (25,870บาท) 1,745 (25,770บาท) 1,740 (25,690บาท)
แนวต้าน 1,777 (26,240บาท) 1,784 (26,340บาท) 1,793 (26,470บาท)
SILVER FUTURES (SVV12)
แนวรับ 33.90 (1,057บาท) 33.55 (1,046บาท) 33.10 (1,031บาท)
แนวต้าน 35.05 (1,092บาท) 35.30 (1,100บาท) 35.65 (1,110บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com
ข่าวเด่น