ตลาดหุ้นไทยวันนี้ เปิดตลาดร่วงลงตามตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดย ลบ 3.95 จุด อยู่ที่ระดับ 1,283.46 จุด เปลี่ยนแปลง -0.31 % มูลค่าการซื้อขาย 1,800.57 ล้านบาท ดัชนีปรับสูงสุด 1,283.50 จุด ต่ำสุด 1,282.01 จุด ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดเมี่อคืนร่วงลง 101.37 จุด เปลี่ยนแปลง -0.75% ปิดที่ 13,457.55 จุด ,ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 15.30 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.05% ปิดที่ 1,441.59 จุด และดัชนีแนสแดก ลดลง 43.06 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.36% ปิดที่ 3,117.73 จุด
เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองของสเปน บดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นเกินคาด โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในช่วงแรกขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนก.ค.พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2553 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยานของสหรัฐอยู่ที่ 70.3 ในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นจากระดับ 61.3 ในเดือนสิงหาคม ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน
แต่หลังจากนั้นตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากนายชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียได้ออกมาแสดงความเห็นว่า มาตรการ QE3 แทบจะไม่มีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดอัตราว่างงาน มีแต่จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของเฟด ทำให้ตลาดหุ้นอเมริกาปิดตลาดปรับตัวลดลงแรง
โดยนักวิเคราะห์ไทยส่วนใหญ่มองว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลง เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคปรับตัวอยู่ในแดนลบ โดยวันนี้มีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,278-1,290 จุด ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนอาจต้องทยอยขายทำกำไร
ข่าวเด่น