สภาวะตลาดวันที่ 2 ตุลาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,780.39 – 1,773.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV12 อยู่ที่ 26,080 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 26,030 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV12 อยู่ที่ 1,078 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,069 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.00 น.ของวันที่ 02/10/12)

แนวโน้มวันที่ 3 ตุลาคม 2555   
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่รอบปีนี้ ที่ระดับ 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากคำกล่าวของประธานเฟดสาขาชิคาโก ที่กล่าวว่า มีแนวโน้มที่เฟดจะขยายระยะเวลาดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ QE3 ออกไปจนถึงปี 2556 และเขาสนับสนุนการส่งเสริมการซื้อสินทรัพย์รายเดือนภายใต้ QE3 ในวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนในปีหน้า เมื่อโครงการ Operation Twist วงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนหมดอายุลงในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตามราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา

ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐอินเดียน่า โดยปกป้องนโยบายเชิงรุกด้านต่างๆที่เฟดนำมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอและจำเป็นต้องฉุดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ปรับตัวลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้อัตราว่างงานลดลงได้

โดยวายแอลจี ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,765 - 1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านสำคัญในโซน 1,792-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถผ่านได้ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรทางเทคนิคออกมา ซึ่งการอ่อนตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรเช่นเดิม

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและทรงตัวในระดับสูง โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านบริเวณ 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,765-1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคายังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและ ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไป
          

ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ      1,765 (25,650บาท)      1,755 (25,500บาท)       1,745 (25,360บาท) 
แนวต้าน    1,792 (26,040บาท)      1,800 (26,160บาท)       1,812 (26,330บาท)    

GOLD FUTURES (GFV12)
แนวรับ      1,765 (25,870บาท)      1,755 (25,730บาท)       1,745 (25,580บาท) 
แนวต้าน    1,792 (26,270บาท)      1,800 (26,390บาท)       1,812 (26,560บาท)    

SILVER FUTURES (SVV12)
 แนวรับ       34.20 (1,056บาท)     33.85 (1,046บาท)        33.40 (1,032บาท)
  แนวต้าน     35.35 (1,092บาท)     35.60 (1,099บาท)        35.95 (1,110บาท)    

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-687-9888 หรือ www.ylgbullion.com