สภาวะตลาดวันที่ 8 ตุลาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,766.14 – 1,780.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV12 อยู่ที่ 25,890 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 180 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 26,070 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV12 อยู่ที่ 1,045 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 27 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,072 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.49 น.ของวันที่ 08/10/12)
แนวโน้มวันที่ 9 ตุลาคม 2555
กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 114,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานลดลงผิดคาดสู่ระดับ 7.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปีนับแต่เดือนมกราคม 2552 โดยผิดจากที่มีการคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.2% จาก 8.1% ในเดือนสิงหาคม ส่วนตัวเลขจ้างงานในเดือนสิงหาคม มีการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 142,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานก่อนหน้าว่าเพิ่มขึ้น 96,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ตัวเลขจ้างงานที่ดีเกินคาดทำให้นักลงทุนบางส่วนสงสัยว่ากระทรวงแรงงานสหรัฐอาจสร้างตัวเลขขึ้นมาเอง ซึ่ง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานสหรัฐ ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว ขณะที่อัตราว่างงานสหรัฐที่ลดลงทำให้ราคาทองคำร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหมดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจประกอบกับนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ทองคำทะยานขึ้นเป็นเวลาหลายวันก่อนหน้านี้ และมุมมองเชิงลบต่อราคาทองคำเพิ่มมากขึ้น เมื่อธนาคารโลกเตือนถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยูโรโซนหากวิกฤตหนี้ยูโรโซนกลายเป็นภาวะความวุ่นวายทางการเงินขนานใหญ่ อาจส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงกว่า 2% ในปีหน้า
สำหรับมุมมองของวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้จะทำให้เกิดแรงขายทางเทคนิคออกมา ซึ่งหากราคาทองคำอ่อนตัวลงมานักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำระยะสั้น โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สามารถเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต้องเป็นการซื้อในลักษณะเก็งกำไรระยะสั้น พร้อมทั้งตั้งจุดตัดขาดทุนทันทีหากไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้น โดยรอจังหวะเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,754 หรือ 1,743 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรทันทีหากราคามีการดีดตัวขึ้นไปไม่ผ่านแนวต้าน 1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านไปได้ให้ชะลอไปปิดสถานะบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสียหายในกรณีที่ราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ขณะที่นักลงทุนที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ทยอยซื้อตามบริเวณแนวรับ ซึ่งหากราคาทองคำอ่อนตัวลงไปอีกโดยมีแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,754 (25,450บาท) 1,743 (25,290บาท) 1,735 (25,180บาท)
แนวต้าน 1,787 (25,930บาท) 1,792 (26,010บาท) 1,800 (26,120บาท)
GOLD FUTURES (GFV12)
แนวรับ 1,754 (25,670บาท) 1,743 (25,510บาท) 1,735 (25,400บาท)
แนวต้าน 1,787 (26,160บาท) 1,792 (26,230บาท) 1,800 (26,350บาท)
SILVER FUTURES (SVV12)
แนวรับ 33.50 (1,033บาท) 33.20 (1,024บาท) 32.70 (1,009บาท)
แนวต้าน 34.30 (1,058บาท) 34.60 (1,067บาท) 34.95 (1,077บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-687-9888 หรือ www.ylgbullion.com
ข่าวเด่น