หลังจากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. )เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตสุราและยาสูบเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้มีผลในวันที่22 ส.ค.นี้ โดยปรับภาษีสรรพสามิต สุราขาวจากเดิมที่เก็บ120บาทต่อลิตรเพิ่มเป็น150บาทต่อลิตร สุราผสมจากเดิมที่เก็บ300บาทต่อลิตรเป็น350บาทต่อลิตร
นายสวัสดิ์ โสภะ กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการผลิตสุราและเทคนิคบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนอนแอลกอฮอล์ ตราช้าง และมีแบรนด์ สุราสีและสุราขาว ในเครือจำนวนกว่า 10 แบรนด์ กล่าวว่า บริษัทฯได้ปรับราคาจำหน่ายสุราขาวและสุราสีขึ้นประมาณ 2-3 บาทต่อขวด แต่ก็ยังเป็นอัตราที่ต่ำกว่าฐานภาษีที่ปรับใหม่อยู่ดี เนื่องจากไม่ต้องการสร้างผลกระทบต่อผู้บริโภค อีกทั้งจะไม่เป็นการกระทบต่อยอดขายรวมของบริษัทฯด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯก็มีแผนที่จะปรับราคาเพิ่มอีกในระยะยาวเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน ตามภาษีสรรพสามิตที่สูงขึ้นประมาณ 5-15 บาท แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับขึ้นราคาอีกครั้งเมื่อใดเพราะต้องรอดูสถานการณ์ตลาดให้ชัดเจนก่อน
"จากเดิมมีผลกำไรเติบโต 10% ก็อาจจะปรับตัวลดลงเหลือผลกำไรเติบโต 7-8% ส่วนแผนระยะยาวบริษัทอาจจะปรับขึ้นราคาสุราขาวอีกประมาณ 5-15 บาท ตามภาษีสรรพสามิตที่สูงขึ้น แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับขึ้นราคาอีกครั้งเมื่อใด"นายสวัสดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดสุราของไทย มีมูลค่าประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด 70% เป็นตลาดสุราขาว และอีก 30% เป็นสุราสี คาดว่าในปีนี้ตลาดรวมอาจจะเติบโต 2% ต่ำกว่าปีก่อนที่ตลาดรวมเติบโต 3-5% เพราะผลจากการที่ราคาปรับขึ้นใหม่ทั้งตลาด อาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคบางกลุ่ม แต่คาดว่า ในช่วงปลายปีนี้ที่เป็นฤดูการขายสินค้าจะทำให้ตลาดรวมกลับมาเติบโตได้ดีและคึกคักมากขึ้น ส่วนภาพรวมยอดขายกลุ่มสุราของบริษัทในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะเติบโตได้ 3-5% จากปีก่อน
ข่าวเด่น