ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ( 10 ต.ค.55) เปิดตลาด  ลบ 5.13 จุด ที่ระดับ 1,287.35  จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,665.85  ล้านบาท ดัชนีปรับสูงสุด 1,287.79 จุด ต่ำสุด 1,286.50 จุด ซึ่งปรับตัวเคลื่อนไหวลดลงตามตลาดหุ้นสำคัญๆ ของโลก อาทิ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ที่ปิดตลาดเมื่อคืนดัชนีร่วงลง 110.12 จุด  เปลี่ยนแปลง - 0.81% ปิดที่ 13,473.53 จุด, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 14.40 จุด เปลี่ยนแปลง- 0.99% ปิดที่ 1,441.48 จุด และดัชนี แนสแดกร่วง 47.33 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.52% ปิดที่ 3,065.02 จุด

รวมถึงตลาดหุ้นในยุโรปที่ร่วงลงเช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 270.20 จุด ,ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,382.78 จุด ลดลง 23.75 จุด ,ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,234.53 จุด ลดลง 56.68 จุด, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,810.25 จุด ลดลง 31.49 จุด ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.)

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างดิ่งลงถ้วนหน้า เป็นผลจากการที่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในเอเชียตะวันออก ยกเว้นญี่ปุ่น จะขยายตัว 7.2% ในปี 2555  เทียบจากการคาดการณ์ในเดือนพ.ค.ที่ 7.6% ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงญี่ปุ่น ในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ  3.3% และลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.6%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายพร้อมจับตาดูผลการประชุมรัฐมนตรีคลัง 27ชาติ ของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจัดขึ้นที่ลักเซ็มเบิร์ก โดยที่ประชุมกำลังหารือกันเกี่ยวกับมาตรการรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาค ก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำอียูจะมีขึ้นที่กรุงบรัสเซลล์ในวันที่ 18-19 ต.ค.นี้ รวมทั้งนักลงทุนยังจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชน หลังจากอัลโค อิงค์ ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์อลูมิเนียม 2555 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์อลูมิเนียมในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่บริษัทอื่นๆ รวมถึงเฟดเอ็กซ์ และฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด ก็ได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการเช่นกัน

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 3.06 ดอลลาร์ หรือเปลี่ยนแปลง +3.43% ปิดที่ 92.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล  ส่วนเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้าน นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดวันนี้ยังคงชะลอตัวจากปัจจัยต่างประเทศ โดยดาวโจนส์ปรับตัวลงค่อนข้างลึก และตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับลง จากปัจจัยไอเอ็มเอฟลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลดลงเหลือ 3.3% ในปีนี้ และปีหน้า 3.6%  จากคาดการณ์เดิมปีนี้ 3.5% และปีหน้า 3.9% ขณะที่ปัจจัยในประเทศ เมื่อวานเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาในกลุ่มพลังงานกับธนาคารพาณิชย์ โดยเป็นการขายทำกำไรก่อนที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์จะมีการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/55 ในสัปดาห์หน้า