บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-12 ต.ค.) เงินบาทอ่อนค่ากว่า 30.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนฟื้นแข็งค่าปลายสัปดาห์ เงินบาทถูกเทขายในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เดือนก.ย.
ที่ลดลงมากเกินคาด หนุนให้เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น ขณะที่ ความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ปัญหาหนี้ของสเปนและกรีซ รวมถึงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ ในไตรมาส 3/2555 ก็เป็นปัจจัยลบต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นกลับมาแข็งค่าในช่วงปลายสัปดาห์ เช่นเดียวกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ที่ขยับแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) มีมติคงจุดยืนในการคุมเข้มนโยบายการเงินด้วยการปล่อยให้เงินดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ในวันศุกร์ (12 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 30.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 30.52 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (5 ต.ค.)
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (15-19 ต.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.60-30.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องติดตามผลการประชุม EU summit (18-19 ต.ค.) รวมถึงสถานการณ์ปัญหาหนี้ของกรีซและสเปน ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก และแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดขายบ้านมือสอง ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ เดือนส.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดการเงินในประเทศน่าจะจับตาการทยอยประกาศมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายของธปท. ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าด้วยเช่นกัน
ข่าวเด่น