บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ. ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 15 ตุลาคม 2555 “ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวในกรอบที่สูงขึ้น โดยเบรนท์จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 110-118 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสที่กรอบ 87-95 เหรียญฯ”
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 - 19 ต.ค. 55)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบที่สูงขึ้น หลังความขัดแย้งระหว่างซีเรียและตุรกีบานปลายจนทำให้กังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบของอิรัก เพราะต้องขนส่งผ่านท่อในตุรกี ขณะที่สหภาพยุโรปเตรียมอนุมัติมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมเพื่อกดดันให้ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจจะปล่อยน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมาใช้ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจใน Q 3/55 ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะออกมาไม่ดีนัก จะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบได้บ้าง
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
• ปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบ จากการปะทะกันในบริเวณชายแดนซีเรียและตุรกี และการที่สหภาพยุโรปจะอนุมัติมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม ซึ่งครอบคลุมถึงการทำธุรกรรมทางการเงินทุกชนิด ตลอดจนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากอิหร่าน
• การส่งออกน้ำมันดิบจากแหล่งทะเลเหนือมีแนวโน้มล่าช้าออกไปอีก หลังการปิดซ่อมบำรุงของแหล่ง Buzzard และแหล่งอื่นๆ กินเวลานานกว่าที่คาดไว้
• ยังคงมีความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา จะใช้มาตรการปล่อยน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์มาเป็นเครื่องมือหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เพื่อลดราคาน้ำมันเบนซินแพงในขณะนี้
• การประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปในวันที่ 18-19 ต.ค. นี้ ที่จะมีการหารือในรายละเอียดการจัดตั้งสหภาพธนาคารและสหภาพการคลังของประเทศในกลุ่มยูโรโซน รวมถึงการช่วยเหลือและแก้ปัญหาหนี้ของสเปนและกรีซ
• คาดว่าสเปนจะยังไม่ขอเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมในการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปในครั้งนี้ โดยผู้นำสเปนอาจจะรอให้การเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 21 ต.ค. เสร็จสิ้นไปก่อนจึงค่อยตัดสินใจ นอกจากนี้สเปนมีความเสี่ยงที่อาจจะถูก มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือไปอยู่ชั้นขยะ หลังถูก เอส แอนด์ พี ปรับลดความน่าเชื่อถือลงมาอยู่ที่ BBB-
• ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก ยอดขอสร้างบ้านใหม่และยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ และดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมนี รวมทั้งการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และจีดีพีของจีน โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนใน Q3/55 จะขยายตัวเพียง 7.4% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี
• บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ใน Q3/55 คาดว่าจะออกมาเป็นที่น่าผิดหวัง เริ่มจาก ซิตี้กรุ๊ป, โคคา โคล่า, โกลด์แมน แซคส์, อินเทล, จอหน์สัน แอนด์ จอหน์สัน, แบงค์ อ๊อฟ อเมริกา, อีเบย์, ไมโครซอฟ, มอร์แกน สแตนลีย์, เวอริซอน และแมคโดนัลด์
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (8 – 12 ต.ค. 55)
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 2.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ 114.62 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้น 1.98 เหรียญฯ มาปิดที่ 91.86 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจากปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง หลังการปะทะระหว่างตุรกีและซีเรียมีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและอิสราเอลยังไม่ลดลง นอกจากนี้การผลิตน้ำมันดิบ 12 แห่งจากแถบทะเลในเดือน พ.ย. คาดว่าจะปรับลดลง หลังหลุมน้ำมันดิบชนิด Buzzard กลับมาจากปิดซ่อมบำรุงช้ากว่ากำหนด
อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มไม่สดใสนัก หลังไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า ขณะที่ธนาคารโลกก็ออกมาปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนเช่นกัน จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันของโลกปรับลดลงด้วย
ข่าวเด่น