บมจ.ไทยออยล์ประเมินแนวโ้น้มราคาน้ำมัน 22-26 ตุลาคม 2555 และสรุปสถานการณ์ 15-19 ตุลาคม 2555
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน (22-26 ต.ค. 55)ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบที่ลดลง เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นจากแหล่งทะเลเหนือ ซูดานใต้และสหรัฐฯ ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ อย่างไรก็ตาม ปัญหานิวเคลียร์อิหร่านยังคงยืดเยื้อหลังสหภาพยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรการเพิ่มเติมแก่อิหร่านเพื่อกดดันให้อิหร่านยกเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ เป็นปัจจัยพยุงราคา ไม่ให้ปรับลดลงมากนัก
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
• ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากทะเลเหนือจะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลุม Buzzard จะกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงในวันอังคารนี้ หลังเลื่อนการเปิดดำเนินการไปเกือบ 3 สัปดาห์ ส่งผลให้การส่งออกในช่วงก่อนหน้านี้มีความล่าช้า
• ซูดานใต้ได้เริ่มกลับมาผลิตน้ำมันดิบอีกครั้ง หลังหยุดการผลิตไปกว่า 9 เดือน เนื่องจากมีปัญหากับซูดานในเรื่องค่าธรรมเนียมท่อขนส่งน้ำมันดิบ คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบ 180,000 บาร์เรลต่อวันจะเข้ามาสู่ตลาดในเดือน ม.ค. 56
• ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 6.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบในแผ่นหิน (tight/shale oil) ที่ปรับเพิ่มขึ้นในรัฐนอร์ทดาโคตา
• ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกมีเพิ่มขึ้น หลังสหภาพยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรการเพิ่มเติม ซึ่งจะกดดันให้อิหร่านเปิดฉากเจรจากับชาติตะวันตกอีกครั้ง หลังเศรษฐกิจในประเทศย่ำแย่จากมาตรการคว่ำบาตร
• ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปว่าสเปนจะขอเงินช่วยเหลืออย่างเป็นทางการเมื่อไรและกรีซจะได้รับเงินงวดถัดไป 31.5 พันล้านยูโรเพื่อไปจ่ายชำระหนี้ที่จะครบกำหนดในเดือน พ.ย. นี้
• ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จีดีพี ไตรมาส 3/55 ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสอง ดัชนีภาคการผลิตและความรู้สึกของผู้บริโภคของสหรัฐฯ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนี และดัชนีภาคการผลิตของจีน
• บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ที่จะประกาศผลประกอบการสำหรับไตรมาส 3/55 ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ แคทเทอร์พิลาร์, ยาฮู, 3เอ็ม, เอที แอนด์ ที, โบว์อิ้ง และแอปเปิ้ล คาดว่าจะออกมาไม่ดีนัก
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (15-19 ต.ค. 55)
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 4.48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ 110.14 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับลดลง 1.81 เหรียญฯ มาปิดที่ 90.05 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลงหลังสัญญาส่งมอบเดือน พ.ย. หมดอายุ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังแหล่ง Buzzard ในทะเลเหนือจะกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันดิบอีกครั้ง จากที่ได้ปิดซ่อมบำรุงนานกว่า 1 เดือนครึ่ง ประกอบกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการผลิตและนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ในการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาไม่ได้มีการหารือในเรื่องเงินช่วยเหลือของสเปนและกรีซ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยที่ประชุมได้หารือแนวทางการแก้ปัญหาระยะยาว ประเทศสมาชิกตกลงวางกรอบกฎหมายจัดตั้งผู้กำกับกลางเพื่อควบคุมสถาบันการเงินในยุโรป (Single banking supervisor) ให้แล้วเสร็จในปีนี้ เพื่อเริ่มดำเนินการในปีหน้า ซึ่งเป็นก้าวแรกไปสู่การเป็นสหภาพธนาคาร (banking union) ของกลุ่มยูโรโซน อย่างไรก็ตาม ราคาไม่ได้ปรับลดลงไปมากกว่านี้เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยุโรปและจีน ที่ประกาศในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด มีส่วนช่วยลดความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงไปมากกว่านี้
ข่าวเด่น