ถึงเวลาอีกครั้งที่กรมสรรพากรออกมาจัดการเกี่ยวกับการเก็บภาษีคณะบุคคล ซึ่งที่ผ่านมามีการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี โดยบุคคลคนหนึ่งที่มีรายได้ในแต่ละปีจำนวนมาก มีการจัดตั้งคณะบุคคลขึ้นมาจำนวนหลายคณะ เพื่อเป็นที่หลบเลี่ยงภาษี โดยกรมสรรพากรระบุว่าส่วนใหญ่จะเป็นอาชีพที่มีรายได้ต่อปีมาก เช่น แพทย์ ดารา นักแสดง

ล่าสุด นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในเรื่องภาษีคณะบุคคลได้มีการหารือร่วมกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้วว่าจะมีแนวทางในการจัดการอย่างไร เพราะที่ผ่านมามีการจัดตั้งคณะบุคคลขึ้นมาจำนวนมาก จึงมีแนวความคิดที่จะแยกให้ชัดว่า คณะบุคคลคืออะไร และห้างหุ้นส่วนที่ไม่ใช่นิติบุคคลคืออะไร และทั้งสองส่วนจะเก็บภาษีกันอย่างไร มีความแตกต่างกันอย่างไร

ฉะนั้น แนวทางต่อไปนี้ จะต้องดำเนินการแยกคำนิยามระหว่าง 2 คำนี้ให้ชัดเจน กล่าวคือ หากเป็นคณะบุคคล จะต้องไม่แสวงหากำไร และจะต้องเสียภาษีอย่างไร เช่น อาจจะเป็นผู้เข้าร่วมอบรมโครงการ วปอ. และอื่นๆ อีกมากมาย และมีการตั้งชมรมเพื่อจัดกิจกรรมหารายได้ แต่ไม่ได้ทำเพื่อการค้าหรือแสวงหากำไร อย่างนี้ คือ คณะบุคคล ทั้งนี้ ตัวกฎหมายใหม่ที่จะออก จะกำหนดไปเลยว่า จะต้องเก็บภาษีคณะบุคคลแบบนี้ในอัตราเท่าใด จากยอดรายรับ แต่ถ้าอีกแบบที่มีการรวมกันแล้วมุ่งทำการค้า แต่ไม่ได้จดเป็นบริษัท อย่างนี้ก็เป็นห้างหุ้นส่วนที่ไม่ใช่นิติบุคคลตามกฎหมาย ก็ต้องเสียภาษีแบบบริษัท ซึ่งจะแบ่งแยกกันชัดเจน แต่คงต้องรอให้กฎหมายออกมาก่อน

"แนวคิดเบื้องต้น กรมสรรพากรอยากจะเก็บภาษีคณะบุคคลในอัตรา 10% ให้เหมือนกับมูลนิธิ สมาคม เพราะปัจจุบันเก็บอยู่ 10% ของรายรับทั้งหมด แต่ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า ไม่ต้องการส่งเสริมให้ทำธุรกรรมอย่างนี้ กลัวจะมีช่องโหว่ในการเลี่ยงภาษี  จึงต้องการให้เก็บเต็มเพดานที่ 20%  ซึ่งไม่ได้เป็นการบังคับ เพราะใครจะตั้งคณะบุคคลรูปแบบนี้ ต้องเสียเต็ม 20%  ดังนั้นต่อไปก็ไม่มีคนทำ และการเลี่ยงภาษีก็จะหายไปเองโดยอัตโนมัติ"นายสาธิตกล่าวทิ้งท้าย