สภาวะตลาดวันที่ 25 ตุลาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,700.79 – 1,716.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV12 อยู่ที่ 25,040 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,000 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV12 อยู่ที่ 985บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 980 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.50 น.ของวันที่ 25/10/12)

แนวโน้มวันที่ 26 ตุลาคม 2555   
แถลงการณ์การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราปานกลาง ขณะที่การเติบโตด้านการจ้างงานเป็นไปอย่างเชื่องช้า และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ เฟดไม่ได้ประกาศแผนการใหม่ๆในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยยังคงดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ต่อไป ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ทุกเดือน จนกว่าแนวโน้มในตลาดแรงงานจะส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ขณะที่สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป รายงานว่า หนี้สินของรัฐบาลในยูโรโซนเพิ่มขึ้นแตะ 90% ของจีดีพี เมื่อสิ้นไตรมาส 2 ของปีนี้ และหนี้สาธารณะของสเปนพุ่งขึ้นแตะ 76% ของจีดีพี ในไตรมาส 2 ปี 2555 ยังคงกดดันตลาดทองคำ

อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงยังคงมีแรงซื้อพยุงราคาไว้ประกอบกับ การที่รัฐมนตรีการคลังกรีซ กล่าวว่า กลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศได้ยืดเวลาให้แก่กรีซในการบรรลุเป้าตามมาตรการรัดเข็มขัดแล้ว แต่กระแสข่าวดังกล่าวไม่สอดคล้องกับถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสหภาพยุโรป และ ไอเอ็มเอฟ ที่กล่าวว่า การเจรจากับรัฐบาลกรีซยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่มีการทำข้อตกลงเกี่ยวกับการทบทวนการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของกรีซ

เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวในระยะสั้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถยืนได้ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงมาสร้างฐานในบริเวณ 1,698 ดอลลาร์ต่อออนซ์และทรงตัวรักษาระดับไว้ได้นักลงทุนสามารถหาจังหวะซื้อเพื่อรอทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไป โดยนักลงทุนควรซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเพื่อรอดูการตั้งฐาน

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากยังไม่สามารถผ่านได้  ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง  สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ  แนะนำนักลงทุนให้เน้นไปที่การเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,698 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,688 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 
          

ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ      1,698 (24,640บาท)      1,688 (24,500บาท)      1,678 (24,350บาท) 
แนวต้าน    1,723 (25,010บาท)      1,730(25,110บาท)       1,745 (25,330บาท)    

GOLD FUTURES (GFV12)
แนวรับ      1,698 (24,780บาท)      1,688 (24,650บาท)      1,678 (24,500บาท) 
แนวต้าน    1,723 (25,160บาท)      1,730(25,260บาท)       1,745 (25,480บาท)    

SILVER FUTURES (SVV12)
 แนวรับ       31.50 (964บาท)        31.20 (955บาท)           30.90 (945บาท)
 แนวต้าน     32.45 (993บาท)        32.85 (1,005บาท)        33.15 (1,014บาท)    

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com