สภาวะตลาดวันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,706.15 – 1,716.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ12 อยู่ที่ 25,160 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 180 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,340 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ12 อยู่ที่ 991 บาท โดยราคาปรับลดลง 12 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,003 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.50 น.ของวันที่ 02/11/12)
แนวโน้มวันที่ 5 พฤศจิกายน 2555
ข้อมูลด้านแรงงานที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจ้างงานทั่วประเทศของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเกินคาดโดย ADP Employer Services รายงานว่าเอกชนจ้างงานเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม ซึ่งถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ประสิทธิภาพการผลิตของสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น 1.9% ในไตรมาส 3/2555 สะท้อนถึงผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ในส่วนต้นทุนแรงงานลดลงและค่าตอบแทนรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนตุลาคม เปิดเผยโดยสำนักงาน Conference Board พุ่งขึ้นเพิ่มขึ้นแตะระดับ 72.2 ซึ่งสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี และเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2551 อันเนื่องมาจากตลาดแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้ถึงความมีเสถียรภาพและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น ผลักดันเงินสกุลดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้น กดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง ประกอบกับสกุลยูโรอ่อนลงหลังศาลกรีซตัดสินว่าการปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญเพื่อสนองตอบมาตรการรัดเข็มขัด อาจจะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับความสามารถของกรีซในการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดซึ่งจำเป็นต่อการขอรับความช่วยเหลือทางการจากต่างประเทศ ยิ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันในตลาดทองคำ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้นพร้อมทั้งมีจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับ แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยหากสามารถรับความเสี่ยงได้มาก อาจซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,700 - 1,690 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway โดยให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับสำคัญไปอยู่ที่ 1,690 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,722 หรือ 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,738 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,700 (24,700บาท) 1,690 (24,550บาท) 1,682 (24,440บาท)
แนวต้าน 1,722 (25,020บาท) 1,731 (25,150บาท) 1,738 (25,250บาท)
GOLD FUTURES (GFZ12)
แนวรับ 1,700 (25,030บาท) 1,690 (24,880บาท) 1,682 (24,770บาท)
แนวต้าน 1,722 (25,350บาท) 1,731 (25,480บาท) 1,738 (25,580บาท)
SILVER FUTURES (SVZ12)
แนวรับ 31.60 (978บาท) 31.25 (968บาท) 30.80 (954บาท)
แนวต้าน 32.55 (1,008บาท) 32.80 (1,015บาท) 33.10 (1,024บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com
ข่าวเด่น