สรุปภาวะตลาดวันก่อน    : SET +8.61 จุด เปิดกระโดดตามหุ้นโลก

หุ้นไทยเปิดกระโดดทันทีกว่า 10 จุดก่อนที่จะขึ้นไปปิดสูงสุดที่ 1,311 จุดและต่ำสุดที่ 1,304 จุดตามหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้นกว่า 1% โดยหุ้นใหญ่เป้นตัวดันดัชนีขึ้นเช่น PTTEP, SCC โดยมีกลุ่มสื่อสารที่ยังคอยกดดันตลาดจากการประมูล 3G ที่มีอุปสรรคมากมาย และยอดซื้อขายของต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อต่อเป็ฯวันที่ 2 อีก 539 ล้านบาท

ทิศทางตลาดวันนี้    : แกว่งแคบ ลุ้นยืน 1,300 จุด

หุ้นโลกสหรัฐฯ ปรับตัวลงกว่า 1% หลังจากที่เปิดบวกรับตัวเลข Nonfarm Payroll เพิ่มขึ้นกว่า 1.71 แสนตำแหน่งซึ่งสูงกว่าคาดที่นักวิเคราะห์คาดและตัวเลขการว่างงานที่ 7.9% ตามที่คาด แต่อย่างไรก็ตามความกังวลในประเด็นความเสียหายจากพายุเฮอริเคนแซนดี้และการเลือกตั้งในวันที่ 6 พ.ย. รวมถึง Fiscal Cliff กดดันตลาดสหรัฐฯ ให้ปิดตัวในแดนลบ และปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่เริ่มส่งผลลบต่อตลาด โดยเรามองตลาดในวันนี้ว่ามีแนวรับสำคัญที่ 1,300 จุด หากทะลุลงอาจจบการรีบาวด์ในระยะสั้นและมีแนวต้านที่ 1,315 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    : เก็งหุ้นใหญ่พื้นฐานดีที่มีปัจจัยบวก

ต่างชาติยังคงซื้อในกลุ่มหุ้นใหญ่ที่ได้รับปัจจัยบวกจากโครงการภายในประเทศเป็นหลัก แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองและ การเลือกตั้งของสหรัฐฯ จะยังกดดันตลาดในระยะสั้นโดยหุ้นที่เราชอบยังคงเป็นกลุ่มเดิมคือ หุ้นพื้นฐานดีขนาดใหญ่ : SET50 ชอบ AOT, BJC, KTB, MINT, PTTGC, SCB, SET100 ชอบ JAS, THCOM และหุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก : แนะนำ CPF, TISCO, SCB และหุ้น AKR, RCI, TH และ TSF ติดใช้เกณฑ์ Cash Balance สำหรับช่วงวันที่ 5 พ.ย. ถึงวันที่ 23 พ.ย.

หุ้นเด่นเล่นสั้น    : TUF, BCH

TUF – คาดผลประกอบการไตรมาส 3 ของ TUF เติบโตกว่า 60% QoQ และ 2.5% YoY เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของ TUF ทำให้มียอดขายที่สูงขึ้นแม้อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงจากราคาปลาทูน่าที่สูงขึ้นและโรงงานกุ้งที่ยังไม่กลับมาดำเนินงานได้ 100% ก็ตาม แต่ TUF ยังคงได้ประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการชำระคืนเงินกู้ในไตรมาสก่อนหน้า โดยเราให้มูลค่าที่เหมาะสม 86.5 บาท (PER 16.2 เท่าปี 2556F)

BCH – เราคาดว่าผลประกอบการของ BCH ในช่วง 3Q55F จะเพิ่มขึ้น 23.3% YoY จากรายได้ผู้ป่วยประกันสังคมที่มากขึ้นและอัตราภาษีที่ลดลงจากปีก่อนหน้า และคาดว่าผลประกอบการของไตรมาส 4 จะเติบโตขึ้น YoY เนื่องจากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้าแต่จะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มจากการเปิดให้บริการ WMC โดยเราเลือกเป็นหุ้นแนะนำโดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 12.2 บาท (DCF)

ปัจจัยติดตาม
5 พ.ย.    US    ตัวเลข ISM Non-Manufacturing ของสหรัฐฯ ในเดือน ต.ค.
6 พ.ย.    US    เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
             EU    ตัวเลข PMI รวม และภาคบริการของสหภาพยุโรปในเดือน ต.ค. (สุดท้าย)
7 พ.ย.    EU    ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหภาพยุโรปในเดือน ก.ย.
8 พ.ย.    UK-EU    ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และสหภาพยุโรป (ECB)
              US    ตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย.
             US    ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ย.