ตลาดหุ้นไทย เปิดตลาดเมื่อเวลา 10.00 น. ปรับขึ้น 4.50 จุด หรือเปลี่ยนแปลง + 0.35% ดัชนียืนที่  1,280.89 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 1,043.76 ล้านบาท ดัชนีปรับสูงสุด 1,280.90 จุด ปรับต่ำสุด 1,279.16  จุด ซึ่งปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศทั้งสหรัฐและยุุโรปที่ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น

โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อคืน เพิ่มขึ้น 48.38 จุด หรือเปลี่ยนแปลง + 0.38% ปิดที่ 12,836.89 จุด, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 3.22 จุด หรือเปลี่ยนแปลง+ 0.23% ปิดที่ 1,391.03 จุด และดัชนีแนสแดกเพิ่มขึ้น 9.87 จุด หรือเปลี่ยนแปลง + 0.34% ปิดที่ 2,926.55 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.2% ปิดที่ 270.11 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 3477.36 จุด บวก 15.30 จุด ,ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 7184.71 จุด บวก 11.72 จุด ,ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 5752.03 จุด บวก 3.93 จุด

ตลาดหุ้นโลกที่ปรับตัวขึ้นหลังได้รับปัจจัยบวกที่อิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาแล้ว โดยนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเป็นผู้กล่าวยืนยัน นอกจากนี้ นายเนทันยาฮูได้กล่าวกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ว่าการทำข้อตกลงครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค หลังจากนั้นไม่นาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐและอียิปต์ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันเช่นเดียวกันว่า อิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้ทำข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง จากสถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสในช่วงก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง  หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 41,000 ราย แตะที่ 410,000 รายในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 พ.ย.ขณะที่มาร์กิตเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นแตะ 52.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน เทียบกับข้อมูล PMI ขั้นสุดท้ายในเดือนต.ค.ที่ 51.0   บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ บล.โนมูระ พัฒนสิน นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน มองว่า ตลาดหุ้นยังมีโอกาสเทคนิคเคิลรีบาวน์ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา โดยเป็นการเก็งกำไรรายตัวมากกว่า เช่น กลุ่ม Commudity ที่ราคาน้ำมันกระเตื้องขึ้น ทำให้หุ้นโรงกลั่นหรือปิโตรฯ ขยับขึ้นมาบางส่วน และกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ก็จะต้องรอเรื่องของความชัดเจนในส่วนของสื่อสารต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ขณะที่ตลาดภูมิภาค แกว่งตัวบวก-ลบ คละกัน แต่ยังไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก ยกเว้นประเทศญี่ปุ่นที่ใช้กลุ่มส่งออกด้วยค่าเงินเยนที่อ่อนค่า และคาดว่าจะยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆเข้ามาในวันนี้ พร้อมให้แนวรับที่ 1,265 จุด แนวต้าน 1,282-1,285 จุด