รัฐบาลจัดสรรงบประมาณประจำปี ๒๕๕๖ จำนวนกว่า ๕๘,๓๔๗ ล้านบาท จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดทั่วประเทศ พร้อมฝากถึงผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติครบ ให้ยื่นขอรับสิทธิในเขตพื้นที่ตามที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านทั่วประเทศ ภายในวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ศกนี้
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ครั้งที่ ๓/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่ทำเนียบรัฐบาล ปรากฏว่าที่ประชุมได้รับรายงานผลการดำเนินงานการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ผู้ที่มีอายุ ๖๐ – ๖๙ ปี ได้รับเบี้ยยังชีพรายเดือนๆ ละ ๖๐๐ บาท อายุ ๗๐ – ๗๙ ปี ได้รับ ๗๐๐ บาท อายุ ๘๐ – ๘๙ ปี ได้รับ ๘๐๐ บาท และอายุ ๙๐ ปีขึ้นไป ได้รับ ๑,๐๐๐ บาท โดยจากผลการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ที่ได้ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ (ตั้งแต่ ตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป) ผ่านกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา พบว่ามีผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพ รวมทั้งสิ้น ๖,๗๘๔,๗๓๔ คน เป็นเงิน ๕๒,๕๓๕,๔๒๕,๒๐๐ บาท
ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๖ ซึ่งเป็นการดำเนินงานในปีที่สอง มีผู้สูงอายุที่เข้าถึงสิทธิเบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้นมากกว่า ร้อยละ ๘๐ ของจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมด ๘.๓ ล้านคน (ผลสำรวจประชากรสูงอายุของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี พ.ศ.๒๕๕๔) โดยจะมีผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพ จำนวน ๗,๓๔๒,๐๒๘ คน ซึ่งรัฐบาลได้พิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณประจำปี ๒๕๕๖ จำนวน ๕๘,๓๔๗,๐๔๓,๒๐๐ บาท เพื่อเป็นเบี้ยยังชีพรายเดือนแก่ผู้สูงอายุดังกล่าวแล้ว
นายสันติ กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แต่มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ คือ ๑. มีสัญชาติไทย ๒. อายุ ๖๐ ปีบริบูรณ์ (ผู้ที่เกิดก่อนวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๖) ๓. เป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตพื้นที่ที่ยื่นคำขอ และ ๔. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จัดให้เป็นประจำ ขอให้นำเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย ๑. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นซึ่งออกให้โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายเจ้าของบัตร พร้อมสำเนา ๒. ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา และ ๓. สมุดบัญชีเงินฝากพร้อมสำเนา (สำหรับกรณีผู้ที่ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประสงค์จะขอรับเงินผ่านธนาคาร) ยื่นขอรับสิทธิ ได้ที่ ที่ทำการเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ตามที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ภายในวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ศกนี้ หากพ้นกำหนดก็ต้องรอปีถัดไป
ข่าวเด่น