รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่ง 15 จังหวัดรอบกทม. เตรียมกำลังทีมแพทย์ฉุกเฉิน 30 ทีม
พร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินจากการชุมนุม ร่วมกับกทม. และตั้งวอร์รูมปฏิบัติการ บัญชาการโดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประสานการทำงานศูนย์เอราวัณกทม.ใกล้ชิดตามแผนปฏิบัติการ โดยให้โรงพยาบาลราชวิถีเป็นส่วนหน้าประสานทีมแพทย์ต่างจังหวัด และคงความพร้อมจนถึงวันที่ 30 พย.นี้ หรือเมื่อยุติการชุมนุม
เช้าวันนี้ (24 พฤศจิกายน 2555) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผ่านระบบวีดีโอกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วไป ในพื้นที่ปริมณฑลและรอบนอก 15 จังหวัดได้แก่ 1.จ.นนทบุรี 2.ปทุมธานี 3.สมุทรปราการ 4.สมุทรสาคร 5.นครปฐม 6.ราชบุรี 7.สมุทรสงคราม 8.เพชรบุรี 9.ฉะเชิงเทรา 10.ระยอง 11.ชลบุรี 12.พระนครศรีอยุธยา 13.อ่างทอง 14.สิงห์บุรี และ15.สระบุรี เพื่อซักซ้อมแผนปฏิบัติการรับมือเหตุฉุกเฉินจากการชุมนุมทางการเมือง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้กำชับให้คงความพร้อมจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน หรือเมื่อยุติการชุมนุม จากนั้นได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลราชวิถี กทม. เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขในการรองรับผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ
นายแพทย์ประดิษฐให้สัมภาษณ์ว่า ในการรองรับด้านการแพทย์และสาธารณสุข จากการชุมนุมครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมวางแผนกับศูนย์เอราวัณ ของกรุงเทพมหานคร โดยได้เปิดวอร์รูมติดตามและประเมินสถานการณ์ขึ้นที่กระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมีนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้บัญชาการสั่งการ ซึ่งหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นหน่วยสนับสนุนทั้งกำลังทีมกู้ชีพ การดูแลผู้เจ็บป่วย หากเกินกำลังของโรงพยาบาลในเครือข่ายของศูนย์เอราวัณ กทม. การปฏิบัติการดังกล่าวได้ซักซ้อมแผนในกรณีที่มีเหตุรุนแรง โดยกระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนระดมทีมแพทย์ไว้ 2 ชุดประมาณ 30 ทีม ชุดแรกมี 5 จังหวัดปริมณฑลได้แก่ นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี และนนทบุรี หากเหตุการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้นก็จะระดมทีมแพทย์มาอีก 10 จังหวัดได้แก่ ราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และสระบุรี โดยมีโรงพยาบาลราชวิถีเป็นส่วนหน้าในการประสานงานทีมหน่วยแพทย์ฉุกเฉินจาก ต่างจังหวัด
ทางด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ในส่วนของรพ.ราชวิถีได้เตรียมความพร้อมสนับสนุนกทม.ไว้ 2 ส่วนคือ 1. การปฏิบัติการภายนอกโรงพยาบาล เน้นจัดทีมเจ้าหน้าที่สื่อสารรับแจ้งเหตุ พร้อมทีมแพทย์กู้ชีพและรถพยาบาลฉุกเฉิน ซึ่งเตรียมไว้ทั้งหมดประมาณ 20 ทีม และ2.การปฏิบัติการภายในโรงพยาบาลได้เตรียมแผนราชวิถี รับมือเหตุการณ์ได้ทุกระดับ เพิ่มบุคลากรทุกสาขาอีกเท่าตัว โดยเฉพาะแพทย์พยาบาลทุกสาขา เตรียมห้องผ่าตัดและห้องฉุกเฉิน เวชภัณฑ์ ยา อุปกรณ์การแพทย์ เตียงผู้ป่วย ไอซียู คลังเลือดทุกหมู่ พร้อมให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้ทันที ขณะนี้มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์
ข่าวเด่น