วันนี้ ( 26 พ.ย.) พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม แถลงภายหลังจากที่ประกาศยุติการชุมชุมนุมเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ว่า
ที่มีการประกาศยุติการชุมนุมไม่ใช่เพราะคนไม่มา แต่เป็นการเสียท่าให้กับตำรวจมากกว่า เพราะทราบว่าต้องเกิดเหตุการณ์รุนแรง พร้อมยืนยันสาเหตุหลักที่ต้องยุติการชุมนุมคือ ไม่อยากให้คนบาดเจ็บและล้มตาย
พล.อ.บุญเลิศ ยังได้กล่าว ยอมรับว่าผู้ชุมนุมน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และไม่มีเงินสนับสนุน เลยทำให้ม็อบไม่มีประสิทธิภาพมากพอ และขณะที่ประกาศยุติการชุมนุมอยู่บนเวทีก็มีคนโทรศัพท์มาต่อว่า และบอกว่ามีคนอีกหลายร้อยคนกำลังเดินทางมา
ส่วนกระแสข่าวว่ารับเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ยกเลิกการชุมนุมนั้น พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เพราะก่อนหน้านี้ตนเคยเสนอให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ยังไม่เอาเลย
เมื่อถามว่าคิดผิดหรือไม่ที่ตัดสินใจให้มีการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น พล.อ.บุญเลิศ บอกว่า คิดดีแล้ว และตั้งใจจะให้มีการชุมนุมในวันดังกล่าว สรุปก็คือว่า ตำรวจขัดขวางการชุมนุมและไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ ซึ่งเรื่องนี้กำลังให้ทนายความพิจารณาอยู่ว่าจะฟ้องตำรวจทำผิดรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ หากดันทุรังให้ชุมนุมต่อ ก็อาจจะทำให้คนของเราเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จึงไม่เสี่ยงดีกว่า
เสธ.อ้าย กล่าวต่อว่า ตนเตรียมร่างหนังสือขอลาออกจากประธานมูลนิธิศิษย์เก่าเตรียมทหาร และองค์การพิทักษ์สยาม แต่ยังไม่ได้ประสานว่าจะให้ใครเป็นแกนนำต่อไป และยังไม่ได้มีการพูดคุยกับน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และพร้อมจะยุติการเคลื่อนไหวทั้งหมด เว้นมีการจาบจ้วงสภาบันพระมหากษัตริย์ และหากมีการชุมนุมหลังจากนี้ก็ไม่ใช่กลุ่มของตนแน่นอน และจะไม่เห็นตนอีกแล้ว เพราะเสธ.อ้าย ตายไปแล้ว
ข่าวเด่น