นายอดิศร   เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่  ด้านบริหารช่องทางการขายและเครือข่าย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อเป็นการนำเสนอทางเลือกให้แก่ลูกค้าและนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง

เชื่อว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุโครงการ (Term Fund) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบผลตอบแทนการลงทุนระยะยาว  ธนาคารได้เปิดจำหน่าย “กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล คอร์ ฟิกซ์ อินคัม (CIMB-PRINCIPAL Core Fixed Income หรือชื่อย่อ CIMB-PRINCIPAL iFIXED)”ครั้งแรก (IPO) ผ่านทางสาขาของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 26 พ.ย.– 4 ธ.ค. 55 นี้   

กองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED เป็นกองทุนเปิดตราสารหนี้ระยะกลางอายุเฉลี่ยประมาณ 2 ปี ลงทุนในตราสารหนี้ชั้นดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งกอง Bond Fund ลักษณะนี้ในต่างประเทศเป็นที่นิยมแนะนำให้ลูกค้าถือเป็นสินทรัพย์หลักในพอร์ตการลงทุน (Core Investment Portfolio) โดยประมาณ 1 ใน 3 ของตลาดกองทุนในประเทศอเมริกาก็เป็นกองทุนประเภทนี้

“กองทุน   CIMB-PRINCIPAL iFIXED มีความสำคัญกับกลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และบลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล คือออกกองทุนที่เป็นสินทรัพย์หลักสำหรับการลงทุนให้ครบภายในปี 2555 นี้ เพื่อต่อยอดแผนการนำเสนอบริการจัดสินทรัพย์การลงทุน (Asset Allocation) ให้ลูกค้าในปีหน้า โดยธนาคารจะมีเจ้าหน้าที่ปรึกษาด้านการลงทุนนำเสนอบริการจัดสินทรัพย์การลงทุนที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน ซึ่งบริการที่ลูกค้าได้รับนั้นจะแตกต่างกันไปตามเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่ลูกค้าแต่ละรายรับได้ ทั้งนี้ จากผลงานการบริหารกองทุนที่ผ่านมาในปี 2555 ของบลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ที่สร้างผลตอบแทนให้ลูกค้าเป็นอย่างดี  โดยเฉพาะกองทุนประเภทหุ้นและLTF ที่ติดอันดับอยู่ใน Quartile 1 อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกองทุนประเภทตราสารหนี้ระยะสั้น ธนาคารจึงเชื่อว่า กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล คอร์ ฟิกซ์ อินคัม จะเป็นอีกกองทุนหนึ่งที่ได้รับการตอบรับและเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุน” นายอดิศรเสริม

นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า “กองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED เป็นกองทุนที่นำเสนอการลงทุนในสินทรัพย์หลัก (Core Asset) ซึ่งเป็นหนึ่งในห้ากองทุนหลักของบริษัทจัดการ หรือกลุ่ม iFund Series ซึ่งในปี55 ที่ผ่านมาได้ทยอยเปิดขายไปแล้ว คือ 1) CIMB-PRINCIPAL iPROP - อสังหาริมทร้พย์ 2) CIMB-PRINCIPAL iDAILY- ตราสารหนี้ตลาดเงิน 3) CIMB-PRINCIPAL iDIV - หุ้นเติบโตดีและปันผลต่อเนื่อง 4) CIMB-PRINCIPAL iGOLD – ทองคำ และที่กำลังจะเปิดขาย CIMB-PRINCIPAL iFIXED ซึ่งนำเสนอสินทรัพย์หลักคือตราสารหนี้ โดยกองทุน iFund Series ทุกกองจะมีคุณสมบัติหลักในการมอบทางเลือกให้ผู้ลงทุนผ่านหน่วยลงทุนแบบ Multi Share Class 3 ชนิด คือ 1. Class A -Accumulation เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยหรือบริษัทที่ต้องการสะสมมูลค่าจากดอกเบี้ยและ Capital Gain 2. Class R -Auto Redemption เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการแบ่งรายได้แบบสม่ำเสมอผ่านการ Auto Redemption และ 3. Class D -Dividend เหมาะกับการลงทุนของบริษัทจำกัด และสถาบันการเงินที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอในรูปของเงินปันผล (Dividend) ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าเป็นอีกจุดขายหนึ่งของกองทุนบริษัทเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้เหมาะกับนักลงทุนแต่ละประเภท กองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และผู้ลงทุนสามารถซื้อ - ขายได้ทุกวันและเวลาทำการ” นายเจษฎากล่าว

ทั้งนี้ นายเจษฎาเพิ่มเติมเรื่องมุมมองทางเศรษฐกิจว่า “สำหรับทิศทางดอกเบี้ยนั้น บริษัทคาดว่าในปีนี้ธปท.จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% ในปีหน้าแนวโน้มดอกเบี้ยน่าจะคงตัวหรืออาจจะปรับลงได้อีกเล็กน้อย ในส่วนของตลาดหุ้นไทยนั้นยังเชื่อว่าจะเติบโตอยู่ที่ 10 - 15% การเลือกหุ้นเพื่อลงทุนจะยากขึ้นเนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่ราคาค่อนข้างสูง”