นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนใหม่ที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศพร้อมกันจำนวน 2 กองทุน มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นตลาดเกิดใหม่ (SCB Emerging Market Equity Fund : SCBEMEQ) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอสแอนด์พี 500 (SCB S&P 500 Fund : SCBS&P500)เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 3 -14 ธันวาคมศกนี้ ด้วยเงินลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสในการกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศช่วงนี้ เนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น จากปัจจัยบวกเรื่องการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และมูลค่าพื้นฐานของหุ้นที่น่าสนใจ สำหรับหุ้นตลาดเกิดใหม่ ปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนการลงทุน คือ ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและมูลค่าพื้นฐานที่น่าสนใจ โดยกลุ่มประเทศเกิดใหม่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มากกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว รวมถึงสถานะทางการเงินที่มั่นคงกว่า ทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคครัวเรือน ขณะเดียวกันนักลงทุนยังอาจได้ประโยชน์จากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นด้วย นอกจากนี้ มูลค่า P/E ปัจจุบันของหุ้นตลาดเกิดใหม่อยู่ที่ระดับ 10 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 14 เท่า ถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจเข้าลงทุน โดยนักวิเคราะห์คาดอัตราการขยายตัวของผลประกอบการธุรกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่จะอยู่ที่ระดับมากกว่า 12% สำหรับปี 2556
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ บริษัทมองว่าความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯ (US Fiscal Cliff) เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ดัชนีฯ ปรับฐานในระยะสั้น และอาจเป็นจังหวะในการเข้าลงทุน ด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ ประมาณ 2% ต่อปี การขยายตัวที่ดีของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนใน S&P 500 โดยสำหรับปี 2556 นักวิเคราะห์คาด EPS Growth อยู่ที่ระดับ 14% โดยมีเป้าหมายของดัชนี S&P 500 ที่ระดับ 1,580 จุด ประกอบกับมูลค่าพื้นฐาน P/E ในปัจจุบันที่ระดับ 12.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 16.6 เท่า อีกทั้ง อัตราผลตอบแทนของ US Treasury ที่ระดับต่ำมากในปัจจุบัน หากมองในเชิง Cross asset class ยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้นักลงทุนย้ายเงินลงทุนเข้าตลาดหุ้นมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นตลาดเกิดใหม่ มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) โดยจะลงทุนในกองทุนดังกล่าวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน คือกองทุน Robeco Active Quant Emerging Markets Equities (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (shareclass) “D share class” ใน class ที่ลงทุนด้วยสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) และอยู่ภายใต้ UCITS บริหารจัดการโดย Robeco Luxembourg S.A. มีนโยบายลงทุนที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีในระยะยาวจัดสรรการลงทุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของสินทรัพย์ทั้งหมดของกองทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหรือมีบทบาทในกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่หรือประเทศอื่นๆที่รวมอยู่ในดัชนีมาตรฐานของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (MSCI Emerging Markets Standard Index)
นอกจากนี้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอสแอนด์พี 500 มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund)โดยลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR S&P 500 ETF Trust โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งเป็นกองทุนที่มีการบริหารจัดการโดย State Street Global Advisors จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนก่อนหักภาษีและค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500
ทั้งนี้ ทั้งสองกองทุนดังกล่าวได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับสกุลเงินบาท ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศตลอดเวลา สำหรับผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6
ข่าวเด่น