ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
นายกฯยิ่งลักษณ์ นำพสกนิกรชาวไทย ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลแด่ในหลวง


นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “5 ธันวามหาราช”

พร้อมนำพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันนี้ (5 ธ.ค.55) เวลา 19.19 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “ 5 ธันวามหาราช” โดยมี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ และประชาชนทุกสาขาอาชีพ เข้าร่วมในพิธีเพื่อแสดงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ

เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรส เดินทางถึง ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ จบแล้ว นายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินขึ้นสู่เวที และเข้าประจำ ณ แท่นเกียรติยศ  จากนั้น นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงานฯ กล่าวรายงาน

นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส ถวายคำนับ ณ หน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  จากนั้นนายกรัฐมนตรี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายคำนับ จุดเทียนชัยเพื่อประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคล  แล้วถวายคำนับ

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคล หน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ ดังนี้

ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  พร้อมด้วยข้าราชการ  และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่มาชุมนุมพร้อมกันอยู่ ณ ที่นี้ และในสถานที่ต่าง ๆ ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ  มีความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง  ที่ได้มาร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทอีกคำรบหนึ่ง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา  วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 นี้

ปวงข้าพระพุทธเจ้าล้วนประจักษ์ชัดแจ้งแล้วว่า  นับตั้งแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงดำรงสิริราชสมบัติจนถึงปัจจุบัน  เป็นระยะเวลายาวนานถึง 66 ปี  ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเสียสละและทรงอุทิศพระองค์เพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์สุขให้แก่อาณาประชาราษฎร์  และสร้างความเจริญมั่นคงให้แก่ประเทศชาติตลอดมา

พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ  ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญ ส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ  ดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข  ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ  เป็นที่เทิดทูนแซ่ซ้องสดุดีไปทั่วโลก  พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สิ้นสุดมิได้นี้  นับว่าเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ของพสกนิกรไทยทุกคนที่ได้เกิดมาอยู่ภายใต้ร่มพระบารมี  เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้  ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำพสกนิกรน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลโดยพร้อมเพรียงกัน ดังนี้

“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย  ขอประกาศความสามัคคีสมานฉันท์  รวมใจกันเป็นหนึ่ง  เพื่อเฉลิมพระเกียรติด้วยความจงรักภักดี และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล  ขออานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดดลบันดาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน  ทรงพระเกษมสำราญ   พระบารมีแผ่ไพศาล  ทรงเป็นหลักชัยอันประเสริฐ  และทรงเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าเหล่าพสกนิกรตราบกาลนาน เทอญ” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

นายกรัฐมนตรีถวายคำนับ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยนายกรัฐมนตรีนำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 1 จบ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินเข้าประจำแท่นเกียรติยศ รศ.ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน ประธานอนุกรรมการฝ่ายพิธีถวายเครื่องราชสักการะมอบโคมเทียนแด่นายกรัฐมนตรี  นายกรัฐมนตรีนำร้องเพลงสดุดีมหาราชา 2 จบ พร้อมกับผู้เข้าร่วมพิธี และประชาชนทั้งในบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวงและทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักร  จบแล้ว นายกรัฐมนตรีกล่าวนำ "ทรงพระเจริญ" 3 ครั้ง ประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องทั่วท้องสนามหลวง

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ธ.ค. 2555 เวลา : 19:47:02

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:14 am