(19 ธ.ค. 55) เวลา 09.30 น. : นายจุมพล สำเภาพล รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวและมอบรางวัล “อาคารปลอดภัย อุ่นใจทั้งเมือง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในโครงการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมด้านความ ปลอดภัยในบ้านและอาคาร โดยมอบรางวัลแก่เจ้าของอาคารสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 21 แห่ง ที่มีความโดดเด่นด้านการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย เพื่อเป็นอาคารต้นแบบที่ดีให้กับเจ้าของอาคารต่างๆ ในการดูแลความปลอดภัยในอาคาร โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นายวินัย ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการสำนักการโยธา ผู้แทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์และสมาคมผู้ตรวจสอบและบริหารความปลอดภัย อาคาร และเจ้าของอาคารที่ได้รับรางวัล ร่วมงาน ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม.

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธา จัดให้มีการคัดเลือกอาคารที่มีความโดดเด่นด้านการบริหารจัดการความปลอดภัย ภายใต้โครงการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมด้านความปลอดภัยในบ้านและอาคาร โดยมีคณะกรรมการกำหนดเกณฑ์การให้รางวัล และคณะกรรมการตรวจประเมินอาคาร ซึ่งเป็นบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรม ราชูปถัมภ์ สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์และสมาคมผู้ตรวจสอบและบริหารความปลอดภัย อาคาร เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่กองควบคุมอาคาร สำนักการโยธา ร่วมกันพิจารณาอาคารที่ได้รับรางวัลทั้ง 21 แห่ง ประกอบด้วยอาคารที่ใช้เพื่อธุรกิจและอาคารที่อยู่อาศัย เช่น อาคารสำนักงาน สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญในการพิจารณา อาทิ เป็นอาคารที่ผ่านการตรวจสอบอาคารและการบำรุงรักษาอาคาร ได้รับใบ ร.1 และมีการตรวจสอบอาคารทุกปีอย่างต่อเนื่อง มีแผนงานการบำรุงรักษาอาคารอย่างเป็นระบบ มีสมรรถนะด้านความปลอดภัยและความพร้อมในการรับมืออุบัติภัยต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ผู้บริหารอาคารให้ความสำคัญกับกิจกรรมด้านความปลอดภัยในอาคารอย่างต่อเนื่อง มีการดำเนินงาน ตามแผนงานมีงบประมาณให้ความใส่ใจต่อเนื่องทุกปี และจะต้องมีการซักซ้อมการอพยพกรณีแผ่นดินไหวหรือเกิดอัคคีภัยร่วมกัน เป็นต้น

รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางความเจริญในทุกด้านของประเทศ ทำให้มีการสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่จำนวนมาก ทุกวันจะมีประชาชนใช้อาคารเพื่อดำเนินกิจกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาคารทั้งทางด้านโครงสร้างและระบบ ต่างๆ ภายในอาคาร และการดูแลบริหารจัดการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมืออุบัติภัยต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและรักษาความ ปลอดภัยในอาคาร และมีส่วนร่วมในการช่วยกันสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองสวรรค์ด้านความปลอดภัยอย่างยั่งยืนต่อไป