" น้ำมันปิดลบเล็กน้อย ตลาดยังกังวลปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ "
เบรนท์ส่งมอบ ก.พ. ปรับลดลง 0.17 ปิดที่ 108.80 เหรียญฯ และน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับลดลง 0.05 ปิดที่ 88.61 เหรียญฯ
- ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในคืนก่อนหยุดวันคริสต์มาส ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ในขณะที่ปัจจัยหลักที่กดดันราคาน้ำมันดิบยังเป็นเรื่องของปัญหาหน้าผาทางการ คลังของสหรัฐฯ (Fiscal Cliff) โดยล่าสุดในคืนวันจันทร์ยังไม่มีการเจรจาเพิ่มเติม หลังจากนายจอห์น โบเนอร์ของฝ่ายรีพับลิกันตัดสินใจถอนร่างกฎหมายภาษีหรือ Plan B ออกไป เนื่องจากขาดเสียงสนับสนุน
- นักลงทุนบางรายกังวลว่าสหรัฐฯ อาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังได้ทันสิ้นปีนี้ เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันหลังจากวันหยุดคริสต์มาส ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับฐานลงมาเกือบ 2 เหรียญฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน
- โรงกลั่นขนาดใหญ่ที่สุดในแถบตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ กำลังการกลั่น 335,000 บาร์เรลต่อวันอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุง ทำให้แรงซื้อน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับลดลงบ้าง ในขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินที่ตลาดล่วงหน้าสหรัฐฯ ปรับขึ้นต่ออีก 0.6% จากอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปที่ขาดหายไป
+ แรงตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นประเด็นที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบอยู่ หลังสถานการณ์สู้รบในซีเรียยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการโจมตีทางอากาศเข้าใส่ผู้คนที่เข้าคิวรับ อาหารทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
+ รัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่านให้สัมภาษณ์ว่าการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกสร้างความ เสียหายให้กับธุรกิจพลังงานและขนส่งของอิหร่านอย่างมาก แต่มั่นใจว่าอิหร่านจะหาทางออกในการขายน้ำมันได้ต่อไป ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าอิหร่านจะไม่ยุติที่จะพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ต่อไป
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีแรงซื้อในตลาดมากขึ้น ประกอบกับอินโดนีเซียมีแผนที่จะนำเข้าน้ำมันเบนซินในระดับสูงในเดือน ม.ค. 56 ในขณะที่โรงกลั่นในมาเลเซียมีแผนปิดซ่อมบำรุงในเดือน ม.ค. 56 เช่นกัน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปทานส่วนเกินในภูมิภาคมีค่อนข้างมาก ขณะที่โอกาสในการส่งออกไปยังยุโรปยังต่ำอยู่
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ เบรนท์ 105 -112 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 85 - 92 เหรียญฯ
คาดว่าราคาจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในช่วงวันหยุดวันคริสต์มาส
จับตามองการจัดการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีหลังช่วงวันหยุด
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันอังคาร: ตลาดสหรัฐฯ ปิดเนื่องในวันหยุดวันคริสต์มาส
วันพุธ: ดัชนีราคาบ้านสหรัฐ โดย S&Pและ Case-Shiller
วันพฤหัส: ยอดขายบ้านใหม่ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจและยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการ ว่างงานสหรัฐฯ ความรู้สึกของผู้บริโภคฝรั่งเศส
วันศุกร์: ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอการปิดขายสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตเมืองชิคาโก ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตยูโรโซน จีดีพีไตรมาส 3 และการใช้จ่ายของผู้บริโภคฝรั่งเศส
วันอาทิตย์: ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตจีน โดย HSBC
- ความคืบหน้าเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) ของสหรัฐฯ ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี ซึ่งหากไม่สามารถหาข้อสรุปได้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 56 จะมีความเสี่ยงที่จะถดถอยและอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
- ติดตามผลการเจรจาครั้งใหม่ระหว่าง IAEA และอิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ในวันที่ 16 ม.ค. 56 อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมภายในเดือน ก.พ. ปี 56 อาจส่งผลให้การเจรจาดังกล่าวล้มเหลว
- จับตาการเปิดใช้ส่วนต่อขยายของท่อส่งน้ำมัน Seaway Pipeline ในช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่จะทำให้กำลังการขนส่งรวมเพิ่มเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน จาก 150,000 บาร์เรลต่อวัน ในปัจจุบัน และจะทำให้การขนส่งน้ำมันออกจากจุดส่งมอบน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสบริเวณคุ ชชิ่ง โอกลาโฮมาไปยังโรงกลั่นในบริเวณรัฐเท็กซัสเพิ่มมากขึ้น
- การประท้วงในอียิปต์คาดว่าจะลดความรุนแรงลง หลังผลอย่างไม่เป็นทางการของการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ให้ร่างดังกล่าวผ่านการประชามติถึงกว่า 70% ซึ่งหากผลคะแนนดังกล่าวได้รับการยืนยันอียิปต์จะต้องจัดเลือกตั้ง ส.ส.ภายในเวลา 2 เดือน
ข่าวเด่น