วันนี้ (5 ม.ค. 56) เวลา 8.00 น. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
นายเผดิมชัย กล่าวว่า จากที่รัฐบาลเราได้ทบทวนเรื่องมาตราการ 300 บาท ก่อนหน้าที่มาเป็นรัฐบาลด้วยซ้ำ วันนี้สิ่งที่ผมวิตกกังวลในช่วงที่น่ากลัวที่สุด คือมาเป็นรัฐบาลแล้วน้ำท่วม โรงงานปิดเป็นจำนวนมาก แล้วเรามาขึ้นค่าแรงในช่วงวันที่ 1 เมษายน ช่วงนั้นจะมีสิ่งที่เรากังวลว่าขึ้นช่วงนั้นจะเกิดภาวะอะไร ผลปรากฎว่าเป็นที่น่าดีใจอย่างหนึ่ง ซึ่งผมจับตามองตลอดว่าไหนจะน้ำท่วม ไหนจะขึ้นค่าแรงในระหว่างกลางปีด้วย ผลปรากฎว่าจากตัวเลขที่เราจับตาดูด้วยความระมัดระวัง มาตรการที่เราลงไปช่วยเหลือพี่น้อง SME ในระหว่างขึ้นค่าแรง ระหว่างที่เรากำลังซ่อมแซมบ้านเมืองของเราในเรื่องน้ำท่วม โรงงานอุตสาหกรรมจะปิดหรือไม่ปิด แต่ก็บังเอิญว่าผ่านพ้นวิกฤตตรงนั้นไปด้วยดี ซึ่งภาวะการว่างงานจาก 0.4% หลังจากน้ำท่วมเพิ่มมาเป็น 0.6 – 0.7% แต่ขณะนี้ภาวะตรงนั้นมาถึงสิ้นปี ก็ได้ลดน้อยถอยลงไป อัตราการว่างงานก็กลับมาอยู่ในภาวะปกติ ซึ่งตรงนี้เห็นได้ชัดว่าเรามีมาตรการที่รัฐบาลได้ช่วยผ่อนปรน จากที่พวกเราได้ร่วมแรง และจากความไม่ประมาท จากมาตรการต่าง ๆ ที่ได้ช่วยมานั้น ผมคิดว่าปัญหาของแรงงานคือปัจจัยต้นทุนของการผลิต ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเพิ่มความสามารถของตัวเราเอง เช่น เพิ่มศักยภาพแรงงาน ทักษะฝีมือแรงงานที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่ม Productivity (การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต) หรือผลิตภาพที่ดีขึ้น จะไม่อยู่เดียวดายแบบเดิมที่จะรอ วันนี้ต้องเกิดการเคลื่อนไหว เพื่อเสริมสร้างให้กับตัวเขาเองด้วยและเจ้าของผู้ประกอบการด้วย จะได้ทำงานแรงงานสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วยกัน ผมว่าเรื่องนี้มาถึงวันนี้เป็นเรื่องที่ผมพอใจมาก
"กระทรวงแรงงานเราไม่ประมาท และกลุ่มสหภาพต่าง ๆ ได้เข้ามาแสดงความขอบคุณรัฐบาลกับผมเอง และเราก็มีการประชุมอย่างต่อเนื่องกับผู้ใช้แรงงานว่า วันนี้เราจะมีวินัยในการทำงานที่ดี เปลี่ยนรูปแบบในการทำงาน คุณก็ไม่ต้องไปขอโอทีกันมาก ๆ จะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมีแรงจับจ่ายโดยไม่ต้องทำงานดึก ตรงนี้ผมว่าเราปรับวินัยในการทำงานของแรงงานได้มาก เราโชคดีที่เรามีสื่อทุกจังหวัด มีแรงงานจังหวัด เราไม่ทำเฉพาะในส่วน Center (ศูนย์กลาง) ในกรุงเทพมหานคร เรามีการทำเรื่องนี้กระจายไปทั่ว ทั้ง 77 จังหวัด เตรียมพร้อมมาเกือบปีแล้วครับ"
นายเผดิมชัย ยังได้กล่าวถึง ผลของนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศว่า ตอนนี้อาจจะเร็วไปที่พูด สำหรับในทั้งประเทศเราเพิ่งขึ้นวันที่ 1 มกราคม 2556 แต่คิดไว้ล่วงหน้าพูดได้ ผลกระทบจะต้องดูสักระยะหนึ่ง แต่สิ่งที่เราคิดกัน แม้ว่ารัฐบาลว่าเราอยากให้พี่น้องแรงงาน ซึ่งเมื่อสักครู่รองนายกฯ ได้พูดแล้วว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะไปควบคู่กับการให้ประเทศชาติของเรา เดินไปข้างหน้าด้วยผลงานเป็นผลผลิตที่ดีขึ้น และผู้ที่เป็นต้นทุนการผลิตคือผู้ใช้แรงงานก็จะมีชีวิตค่าครองชีพก็จะดีขึ้น ด้วย เมื่อดีขึ้นกำลังซื้อในประเทศก็จะดีขึ้น เพราะเราก็คือผู้บริโภคอยู่ดี ไม่ว่าผู้ประกอบการหรือผู้ที่ใช้แรงงานก็ดี วันนี้ถ้าเราทำตรงนี้ได้ 300 บาท ทั่วประเทศ ผมว่าจะเป็นผลดีอันหนึ่ง คนที่ทำงานนอกจากชีวิตของการทำงานแล้วก็ควรจะมีชีวิตในเรื่องของการมีความ สุข และเขาอาจจะเลือกไปทำงานในภูมิลำเนาของตนเอง ได้อยู่กับครอบครัวบ้าง
ข่าวเด่น