"ราคาน้ำมันดิบลด จากอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปส่วนเกินจากทางยุโรป"
เบรนท์ส่งมอบ ก.พ. ปรับลดลง 1.25 ปิดที่ 110.64 เหรียญฯ และน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับลดลง 0.26 ปิดที่ 93.56 เหรียญฯ
- ความกังวลต่อปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินส่วนเกินจากยุโรปที่จะมาถึงสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค. กดดันให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับลดลง ทั้งนี้ยุโรปจำเป็นต้องหันมาส่งออกน้ำมันส่วนเกินมายังสหรัฐฯหลังอุปสงค์จาก ทางแอฟริกาตะวันตกปรับลดลง
- ส่วนต่อขยายของท่อส่งน้ำมัน Seaway Pipeline จาก 150,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน ได้เริ่มทำการขนส่งน้ำมันดิบที่กำลังการขนส่งระดับต่ำออกจากจุดส่งมอบน้ำมัน ดิบเวสต์เท็กซัส บริเวณคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ไปยังโรงกลั่นบริเวณรัฐเท็กซัส เป็นระยะทาง 805 กิโลเมตรในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผลทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับลดลง
- นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นของท่อขนส่งน้ำมัน Seaway Pipeline ยังมีมติที่จะดำเนินการก่อสร้างส่วนขยายในไตรมาส 1/57 ซึ่งจะมีผลทำให้ท่อขนส่งน้ำมันนี้มีกำลังการขนส่งจาก 400,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 850,000 บาร์เรลต่อวัน โดยมีแผนที่จะสร้างท่อขนส่งน้ำมันใหม่คู่ขนานไปกับท่อขนส่งน้ำมันที่มีอยู่ เดิมด้วยกำลังการขนส่ง 450,000 บาร์เรลต่อวัน
- ความกังวลต่อการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียผ่อนคลายลง หลังพบว่าซาอุฯ ปรับลดการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมัน ประกอบสัญญาณที่ดีจากปัญหาการเมืองในตะวันออกกลางว่าจะยังไม่มีผลกระทบต่อ อุปทานน้ำมัน
+ ดัชนีราคาผู้บริโภคจีนเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2.5% เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ 2.0% ทั้งนี้มีผลมาจากราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ที่สุดในรอบ 28 ปี และความต้องการอาหารภายในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนีราคาอาหารในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.2% สูงสุดในรอบ 11 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ดัชนีราคาผู้บริโภคจีน ในปี 55 ยังอยู่ที่ 2.6% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 4% ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.9% ในเดือน ธ.ค. มากกว่าคาดว่าที่ 1.8%
+ นักลงทุนกำลังจับตาจีดีพีไตรมาส 4/55 ของจีน ที่จะประกาศในวันที่ 17 ม.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจีดีพีไตรมาส 4/55 ของจีนจะปรับตัวดีขึ้น มาอยู่ที่ 7.8% เป็นอย่างน้อย หลังตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆที่ออกมาดีขึ้น ส่งสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจโลกและมีส่วนช่วยขับเคลื่อนความต้องการใช้น้ำมัน ในปีนี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดคาดว่าปริมาณการส่งออกจากทางไต้หวันจะปรับเพิ่มขึ้น หลังโรงกลั่นในประเทศเริ่มเดินเครื่องส่วนขยายของหน่วยผลิตน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบเช่นกัน เนื่องจากแรงกดดันจากอุปทานส่วนเกินทางฝั่งตะวันตก ประกอบกับความต้องการซื้อภายในภูมิภาคที่ค่อนข้างน้อย
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ เบรนท์ 108 -115 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 88 - 95 เหรียญฯ
คืนนี้ติดตามการผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซน /ผลประกอบการณ์ไตรมาส 4 ปี 55 ของมอร์แกน สแตนลีย์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ / ผลประกอบการไตรมาส 4/55 ของบริษัท จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้แก่
วันจันทร์: การผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซน /มอร์แกน สแตนลีย์
วันอังคาร: ยอดค้าปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐนิวยอร์ค ดุลการค้ายูโรโซนและดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนี
วันพุธ: ดัชนีราคาผู้บริโภคและการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซน /อีเบย์/โกลด์แมน แซคส์/เจพี มอร์แกน เชส
วันพฤหัส: ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานและยอดการขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย การผลิตภาคอุตสาหกรรมยอดค้าปลีกและจีดีพีไตรมาส 4 ของจีน รายงานภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป /อเมริกัน เอ็กซ์เพรส/แบงค์ อ๊อฟ อเมริกา/ซิตี้กรุ๊ป/อินเทล
วันศุกร์: ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ(ม.มิชิแกน) /เจนเนอร์รัล อิเลคทริค
ติดตามผลการเจรจาครั้งใหม่ระหว่าง IAEA และอิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ในวันที่ 16 ม.ค. 56 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางการอิหร่านมีท่าทีว่าจะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ IAEA เข้าตรวจในบริเวณฐานทัพพาร์ชิน
- ติดตามรายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำเดือนม.ค.ของ OPEC และ IEA ในวันที่ 16 และ 18 ม.ค. ตามลำดับว่าจะมีมุมมองอย่างไรต่อคาดการณ์ปริมาณผลิตและปริมาณความต้องการใช้ น้ำมันของโลกปี 56 หลัง EIA รายงานในสัปดาห์ที่แล้วคาดว่าอุปทานส่วนเพิ่มจะมากกว่าอุปสงค์ทำให้กลุ่มโอ เปคต้องพิจารณาลดกำลังผลิต
- จับตาผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ WTI จากการเปิดใช้ส่วนต่อขยายของท่อส่งน้ำมัน Seaway Pipeline ในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ที่จะทำให้กำลังการขนส่งรวมเพิ่มเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน จาก 150,000 บาร์เรลต่อวัน ในปัจจุบัน และจะทำให้การขนส่งน้ำมันออกจากจุดส่งมอบน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสบริเวณคุ ชชิ่ง โอกลาโฮมาไปยังโรงกลั่นในบริเวณรัฐเท็กซัสเพิ่มมากขึ้น
- นอกจากนี้ติดตามว่าโรงกลั่น Motiva ที่เท็กซัส สหรัฐฯจะกลับมาดำเนินการผลิตของหน่วยกลั่นขนาดกำลังการผลิต 325,000 บาร์เรลต่อวันอีกครั้งเมื่อไรหลังความพยายามครั้งล่าสุดล้มเหลวเนื่องจาก เกิดการรั่วไหล
ข่าวเด่น