สภาวะตลาดวันที่ 21 มกราคม 2556
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,685.40 – 1,691.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG13 อยู่ที่ 23,970 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,010 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG13 อยู่ที่ 950 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 945 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.16 น.ของวันที่ 21/01/13)
แนวโน้มวันที่ 22 มกราคม 2556
ความไม่แน่นอนต่อปัญหาวิกฤติหนี้ยูโรโซน ทำให้การฟื้นตัวของยูโรโซนตกอยู่ในความสนใจของนักลงทุน โดยนายฌอง คล็อด ยุงเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก จะทำหน้าที่ในฐานะประธานยูโรโซนครั้งสุดท้ายในการประชุมกลุ่มผู้นำยุโรป (Eurogroup Meeting) ก่อนจะมอบตำแหน่งให้ประธานคนต่อไปคือ นายเยอเริน เดย์เซลบลูม รัฐมนตรีคลังเนเธอร์แลนด์ ซึ่งนักลงทุนยังคงติดตามว่าแนวนโยบายส่วนใหญ่จะเป็นเช่นไรและจะสามารถสารต่อภารกิจรวมถึงการแก้ไขปัญหาของยูโรโซนที่ยังคั่งค้างจากประธานคนเก่าได้หรือไม่
ขณะที่กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) เตรียมอนุมัติเงินช่วยเหลืองวดที่ 2 ในวงเงินเงินมูลค่า 1.865 พันล้านยูโรให้กับภาคธนาคารของสเปนที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาล โดยธนาคารเหล่านี้มีความจำเป็นจะต้องลดขนาดของธุรกิจลงราว 30%
อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่า ปริมาณเงินทุนที่แท้จริงของ ESM สำหรับการช่วยเหลือแก่ธนาคารต่างๆนั้น อาจจะต่ำกว่า 1 แสนล้านยูโร เนื่องจากกองทุนจำเป็นต้องปฏิบัติภารกิจหลักในการปล่อยกู้ให้กับรัฐบาลที่ไม่สามารถเข้าถึงตลาดได้ ส่งผลให้นักลงทุนต่างเกิดความหวั่นวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูโรโซนที่ยังไม่มีความชัดเจนและปัญหาทางด้านยูโรโซนได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
เบื้องต้นราคาทองคำอาจแกว่งตัวเคลื่อนไหวในกรอบ ซึ่งราคาทองคำหากมีการเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,697 - 1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุไปได้ จะส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำได้อีก
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้นพร้อมทั้งมีจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,678 - 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา โดยให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,678 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,697 หรือ 1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,714 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,678 (23,610บาท) 1,670 (23,490บาท) 1,663 (23,390บาท)
แนวต้าน 1,697 (23,870บาท) 1,705 (23,990บาท) 1,714 (24,110บาท)
GOLD FUTURES (GFG13)
แนวรับ 1,678 (23,810บาท) 1,670 (23,690บาท) 1,663 (23,590บาท)
แนวต้าน 1,697 (24,070บาท) 1,705 (24,190บาท) 1,714 (24,310บาท)
SILVER FUTURES (SVG13)
แนวรับ 31.65 (942บาท) 31.40 (935บาท) 31.10 (926บาท)
แนวต้าน 32.15 (957บาท) 32.40 (964บาท) 32.65 (972บาท)
ข่าวเด่น