ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน : บมจ.ไทยออยล์


" น้ำมันอ่อนตัว หลังนักลงทุนกังวลอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด "
ตลาดน้ำมันสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันหยุดมาร์ตินลูเธอร์คิงจูเนียร์ ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ ก.พ. ปรับลดลง 0.18 ปิดที่ 111.71 เหรียญฯ

- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในช่วง วันหยุดของสหรัฐฯ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสที่ซื้อขายในกระดานอิเล็กทรอนิกส์ ช่วงเวลา 7.00 น. ประเทศไทย ปรับลดลง 0.26 มาอยู่ที่ 95.30 เหรียญฯ
- ตลาดกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบจากประเทศนอกกลุ่มโอเปค ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่จะสามารถผลิตน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้นแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ที่ 7.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ฝั่งอุปสงค์จะเติบโตเพียง 9 แสนบาร์เรลต่อวัน ทำให้กลุ่มโอเปคจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตเพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาด โดยในเดือน ธ.ค. กลุ่มโอเปคได้เริ่มลดกำลังการผลิตไปแล้วประมาณ 1 แสนบาร์เรลต่อวัน มาอยูที่ 30.62 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ปัจจัยกดดันจากภาพเศรษฐกิจยังคงเป็นแนวต้านสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันไม่ สามารถขยับขึ้นได้มาก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันอาจเติบโตน้อยกว่าที่คาด หลังจากตัวเลขความรู้สึกผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีที่ 71.3 จุด
+ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์จับตัวประกันและเข้ายึดแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติในอัลจีเรียสร้างความ กังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของอัลจีเรียในอนาคต โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงถึง 80 ราย โดยเป็นฝั่งตัวประกัน 48 ราย ซึ่งถือว่าเป็นการสูญเสียตัวประกันมากสุดในรอบหลายสิบปี ทำให้อาจจะส่งผลต่อการลงทุนขุดเจาะน้ำมันดิบในระยะยาว โดยปัจจุบันอัลจีเรียเป็นสมาชิกในกลุ่มโอเปคและมีปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่ ประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากตลาดสหรัฐฯ ที่เริ่มมีสัญญาณว่าอุปทานจะเริ่มปรับลดลงหลังจากที่โรงกลั่นจะเริ่มเข้าสู่ ช่วงปิดซ่อมบำรุงในเดือน ก.พ.-มี.ค.
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ประกอบกับมีแรงซื้อจากแอฟริกาและตะวันออกกลางเข้ามาในตลาดเอเชียมากขึ้น ในขณะที่อุปทานฝั่งยุโรปจะปรับลดลงในช่วงปิดซ่อมบำรุงเดือน ก.พ.-มี.ค. เช่นกัน
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ เบรนท์ 108 -115 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 90 - 97 เหรียญฯ
ในสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมสำคัญต่างๆ การเลือกตั้งอิสราเอล และความคืบหน้าของแผนการปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯส่วนในวันนี้ตลาดสหรัฐฯ ปิดเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์คิง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้/ ผลประกอบการไตรมาส 4/55 ของบริษัท จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้แก่
วันอังคาร: ดัขนีวัดภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนและเยอรมนี (ZEW) ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ / กูเกิ้ล/ จอหน์สัน แอนด์ จอหน์สัน/ เวอริซอน
วันพุธ: ดัชนีภาคการผลิตจีน(HSBC) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน/ แอปเปิ้ล/ แมคโดนัลด์
วันพฤหัส: ดัชนีภาคการผลิต-ดัชนีภาคบริการ และดุลบัญชีเดินสะพัดยูโรโซน ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน และดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ / 3เอ็ม/ เอที แอนด์ ที/ ไมโครซอฟ/ ซีร็อค
วันศุกร์: ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจเยอรมนี (IFO)
- การประชุมกลุ่มผู้นำยุโรป (Eurogroup Meeting) ในวันที่ 21 ม.ค. การประชุมรัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป (EU Finance Minister Meeting) ในวันที่ 22 ม.ค. และการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 -27 ม.ค. นี้ ติดตามว่าผู้นำจากประเทศต่างๆ จะมีมุมมองอย่างไรต่อภาพรวมเศรษฐกิจในปี 56 หลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ ลงมาอยู่ที่ 2.4% จาก ที่คาดไว้เดิมที่ 3.0% เมื่อเดือน มิ.ย. 55
- จับตาการอนุมัติแผนเพิ่มเพดานหนี้ชั่วคราวระยะเวลา 3 เดือน ของสหรัฐฯ ที่จะช่วยให้สหรัฐฯ ไม่ต้องผิดนัดชำระหนี้และไม่ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง รวมถึงเพื่อเพิ่มเวลาให้สภาฯ ได้พิจารณาการปรับลดงบประมาณในระยะยาวได้
- การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 21-22 ม.ค.นี้ ตลาดคาดว่า BOJ จะปรับพิจารณาเข้าซื้อสินทรัพย์ต่างๆ จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2% จาก 1% ในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการที่ BOJ จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้น
- ติดตามผลการเลือกตั้งทั่วไปในอิสราเอลในวันที่ 22 ม.ค. ว่าพรรคลิคุดของนายเนทันยาฮูจะได้รับคะแนนเสียงเท่าไรและจะกลับมาเป็นรัฐบาล อีกสมัยได้หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลต่อนโยบายต่างประเทศของอิสราเอลต่อปาเลสไตน์และอิหร่าน โดยเฉพาะความกังวลเรื่องโครงการพัฒนานิวเคลียร์อิหร่านหลังล่าสุดการเจรจา ระหว่าง IAEAและอิหร่านยังไม่คืบหน้า อย่างไรก็ตาม จะมีการเจรจากันอีกครั้งในวันที่ 12 ก.พ. นี้
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ บริเวณคุชชิ่งโอกลาโฮมา คาดว่าจะปรับตัวลดลงจากระดับสูงหลังมีการเปิดใช้ส่วนต่อขยายของท่อขนส่ง น้ำมัน Seaway Pipeline ที่มีกำลังขนส่งรวม 400,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ม.ค.


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ม.ค. 2556 เวลา : 10:06:25

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:17 am