ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดวันนี้ (25 ม.ค.) บวก 1.99 จุด ดัชนียืนที่ 1,451.08  จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.14% มูลค่าการซื้อขายที่ 2,909 ล้านบาท ดัชนีปรับสูงสุด  1,451.78 จุด ต่ำสุด 1,450.69  จุด โดยปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อคืน ปรับขึ้น 46.00 จุด หรือเปลี่ยนแปลง + 0.33% ปิดที่ 13,825.33 จุด และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น 0.01 จุด หรือเปลี่ยนแปลง + 0.01% ปิดที่ 1,494.82 จุด แต่ดัชนีแนสแดก ลดลง 23.29 จุด หรือเปลี่ยนแปลง- 0.74% ปิดที่ 3,130.38 จุด

เหตุผลที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืน เนื่องจากขานรับข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ จีน และเยอรมนี โดยผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นในภาคการผลิตของสหรัฐเดือนม.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 56.1 จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 54.0 โดยดัชนี PMI เบื้องต้นภาคการผลิตเดือนม.ค.ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 53.0

ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นแตะ 51.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 24 เดือน จากระดับ 51.5 ในเดือนธ.ค. และดัชนี PMI เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของเยอรมนีในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะ 53.6 จาก 50.3 ในเดือนธ.ค. ส่งสัญญาณสดใสแรงหนุนจากดัชนีภาคบริการที่แข็งแกร่ง

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวผันผวนในกรอบที่กว้างมากขึ้น โดยคาดว่าจะยังคงมีการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง ผลจากตลาดหุ้นอเมริกาปิดตลาดปรับตัวขึ้น โดยดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้นอยู่ในแดนบวกติดต่อกัน 7 วันทำการ แต่ไม่สามารถทรงตัวเหนือระดับ 1,500 ได้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกรณีหุ้นแอปเปิลร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 4 ปี ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวก 0.33%