สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +9.89 จุด รับ US ขยายเวลาเพดานหนี้

หุ้นไทยแกว่งแดนบวกในกรอบ 1437-50 ขานรับสหรัฐฯ ขยายเวลาเพดานหนี้เป็น 19 พ.ค. 56 โดยมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่อง (AOT, CK, KTB, PTTGC, TOP) ช่วยดัน SET ขึ้นต่อ ต่างชาติชะลอการซื้อสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ เหลือเพียง 59 ลบ. หลังเงินบาทส่งเริ่มสัญญาณอ่อนค่า ?

ทิศทางตลาดวันนี้ : แกว่งผันผวนออกข้าง หลังบาทเริ่มอ่อนค่า

หุ้นโลกเมื่อคืน (24 ม.ค.) แกว่งขึ้น ขานรับจำนวนขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ รายสัปดาห์ ลดลง 5K มาต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 330K vs คาดที่ 355K และผลประกอบการบจ.ที่ออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี เรามองบาทที่เริ่มพลิกมาอ่อนค่าจากที่เคยแข็งค่าสุดที่ 29.69 บ./$ ในช่วงต้นสัปดาห์ มาล่าสุดที่ 29.85 บ./$ (8.30) น. จะส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าชะลอตัว และ/หรือ อาจพลิกกลับมาขายสุทธิได้ ดังนั้นนลท.ต้องระวังการขายทำกำไรช่วงหุ้นปรับขึ้นระหว่างวัน แนวต้าน 1450-55 แนวรับ 1435-40  ?

กลยุทธ์การลงทุน : สั้นๆ ลงซื้อ-ขึ้นขาย หุ้นปันผลยังน่าแนะเก็บต่อ

นลท.สถาบันที่ซื้อสุทธิ 3 วันติดต่อกัน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเม็ดเงินทริกเกอร์ฟันด์ที่เพิ่งขายล็อตใหม่ 2 กอง (ของ ING) มูลค่าเกือบ 1 หมื่นลบ. ทำให้หุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานที่ราคายัง laggard น่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนช่วงนี้ อาทิ ADVANC, INTUCH, IRPC, IVL ส่วนการเทรดดิ้งสั้นแนะนำ หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก AP, BAY, IT, KSL นอกจากนี้การอ่อนตัวยังเป็นโอกาสทองในการทยอยเก็บ หุ้นปันผลสูง (คาดจ่าย yield ราว 4% ขึ้นไป) อาทิ DELTA (คาดปันผล 1.8 บ.), QH (13 สต.), SPALI (75 สต.), TICON (1 บ.), TVO (1.1 บ.) ส่วนหุ้นอื่น ๆ ที่อยู่นอกการวิเคราะห์ของเรา แต่จากการประมาณการของตลาดและการประเมินของเรา ชอบ ASIMAR (คาดปันผล 14 สต.), CFRESH (60 สต.), CGS (7 สต.), CM (40 สต.), CTW (70 สต.), EASON (20 สต.), FSS (14 สต.), IFS (15 สต.), KGI (17 สต.), LEE (21 สต.), PRIN (11 สต.), SSSC (3.3 บ.), TKS (33 สต.), TMT (66 สต.), TPAC (50 สต.), VNG (22 สต.), VNT (1 บ.)  อนึ่ง คาดหุ้น GRAND, IEC, LL, UV, CIG, SLC, BLAND-W2, LL-W1, SLC-W3ติด Cash Balance เย็นนี้ ?

หุ้นเด่นรายวัน : AP , BAY

AP – คาดผลประกอบการ 4Q55 ดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นขณะที่ Backlog สิ้นปี อยู่ที่ 3.4 หมื่นล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER 10.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 14 เท่าสำหรับปี 2556F และมีเงินปันผล 3-4%  ?

BAY – รายงานผลประกอบการ 1.46 หมื่นล้านบาท สำหรับปี 2555 และ 3.76 พันล้านบาท สำหรับช่วง 4Q55 ตามที่เราและตลาดคาดการณ์ และเมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคาร BAY มีความน่าสนใจมากสุดเนื่องจากราคาหุ้นที่ Laggard กลุ่ม BANK, RoE ระยะปานกลางที่แข็งแกร่งและโอกาสในการถูก Takeover สูง เราปรับมูลค่าที่เหมาะสมเพิ่มขึ้นเป็น 40 บาท (GGM) ?

ปัจจัยติดตาม

25 ม.ค. GE ตัวเลขชี้ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (IFO) ของเยอรมันในเดือน ม.ค.
            UK ตัวเลข GDP ของอังกฤษในไตรมาส 4/55 (เบื้องต้น)
            US ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค.

28 ม.ค. TH ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) และอัตราการใช้กำลังการผลิตของไทยในเดือน ธ.ค.
            IT ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอิตาลีในเดือน ม.ค. และประมูลพันธบัตรอิตาลี
            UK ตัวเลขดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศของอังกฤษในเดือน ม.ค.
            US ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านรอปิดการขายของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค.