“ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และตัวเลขเศรษฐกิจที่คาดว่าจะออกมาดี หนุนราคาน้ำมัน”
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 108-115 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 92-100 เหรียญฯ”
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน (28 ม.ค. – 1 ก.พ. 56)
ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบที่สูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก จีดีพีไตรมาส 4/55 สหรัฐฯ ที่คาดว่าจะออกมาดีรวมถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 29-30 ม.ค. นอกจากนี้การขนส่งน้ำมันผ่านท่อส่ง Seaway คาดว่าจะกลับมาเต็มกำลังภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังบริเวณคุชชิ่งปรับลดลงและส่งผลให้ราคา น้ำมันดิบโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวสต์เท็กซัสปรับตัวสูงขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
• ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 4/55 (ครั้งที่ 1) การจ้างงานภาคเอกชน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค การจ้างงานนอกภาคเกษตร และดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจเยอรมนี ดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนีและยูโรโซน รวมทั้งดัชนีภาคการผลิตจีน (Official PMI) ที่คาดว่าจะออกมาดีและจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น
• ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 29-30 ม.ค. 56 ว่าจะมีมุมมองต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE4) อย่างไร หลังผู้ร่วมประชุมหลายรายมองว่าควรจะยกเลิกมาตรการ QE4 ก่อนกำหนดในช่วงสิ้นปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น รวมถึงมุมมองต่อแผนการปรับเพิ่มเพดานหนี้ชั่วคราวระยะเวลา 3 เดือน ของสหรัฐฯ ที่จะช่วยให้สหรัฐฯ ไม่ต้องผิดนัดชำระหนี้และไม่ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง
• ตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 4/55 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้แก่ บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ไฟเซอร์ วาเลโร เอนเนอยี โบว์อิ้ง และเมอร์ค คาดว่าจะออกมาดีและส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
• ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ บริเวณคุชชิ่งโอกลาโฮมา คาดว่าจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดคาดว่ากำลังขนส่งของส่วนขยายของท่อขนส่งน้ำมัน Seaway Pipeline จะกลับมาเต็มกำลังที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน อีกครั้งภายในเวลา 1 สัปดาห์ หลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการปรับลดกำลังการขนส่งลงไปอยู่ที่ระดับ 175,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงอาจส่งผลกดดันความต้องการใช้น้ำมันดิบ
• ติดตามความพยายามจัดตั้งรัฐบาลผสมของนายเนทันยาฮูหลังจากพรรคร่วมรัฐบาล เดิมได้รับชัยชนะอย่างฉิวเฉียดรวมถึงนโยบายต่างประเทศต่อปาเลสไตน์และ อิหร่าน หลังล่าสุดการเจรจาระหว่าง IAEAและอิหร่านยังไม่คืบหน้า ซึ่ง จะมีการเจรจากันอีกครั้งในวันที่ 12 ก.พ. นี้เพื่อหาข้อสรุปของการขอเข้าตรวจสอบแหล่งที่ตั้งโครงการพัฒนานิวเคลียร์ หลังการเจรจาเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ล้มเหลว
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (21 – 25 ม.ค. 56)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้น 0.32 เหรียญฯ สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ 95.88 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 1.39 เหรียญฯ มาปิดที่ 113.28 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังสภาผู้แทนฯ สหรัฐฯอนุมัติให้ขยายเพดานหนี้ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 3 เดือนเพื่อเพิ่มเวลาการพิจารณาปรับลดงบประมาณระยะยาว และตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกที่ออกมาดี โดยดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจเยอรมนี (Ifo) ก็ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือนด้วย ด้านสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคผลิตเดือนม.ค.ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 22 เดือนเช่นกัน นอกจากนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ส่อแววสดใสหลังธนาคารกลางญี่ปุ่นใช้แผนกระตุ้น เศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯที่ปรับเพิ่มขึ้นมาในสัปดาห์ก่อน เนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯเข้าสู่ฤดูกาลซ่อมบำรุง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันโดยเฉพาะน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
ข่าวเด่น