สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -5.22 จุด วิตกศก.ยุโรปหดตัวกว่าคาด
หุ้นไทยแกว่งผันผวนในแดนลบตลอดทั้งวัน กรอบ 1514-26 วิตกศก.ยุโรป หลัง GDP 4Q55 ของเยอรมัน, อิตาลี และฝรั่งเศส ติดลบ 0.6, 0.3% และ 0.9% ตามลำดับ มากกว่าที่คาด หุ้นกลุ่มสื่อสารและกลุ่มพลังงานนำตลาดลง ต่างชาติขายสุทธิ 1.89 พันลบ. ทั้งเดือน ก.พ. (MTD) ขายสุทธิรวม 1.31 หมื่นลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : แกว่งอิงแดนบวก ลุ้นทะลุแนวต้าน 1526-27
หุ้นโลกเมื่อคืนวันศุกร์ (15 ก.พ.) แกว่งปิดกรอบแคบ แม้ตัวเลขศก.สหรัฐฯ ออกมาดี อาทิ กิจกรรมการผลิต ก.พ. ในเขตนิวยอร์ก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือน ก.พ. แต่ตลาดรอดูผลการประชุมรมต.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มปท. G20 วันนี้ (18 ก.พ.) ทุกตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้จะกลับมาเปิดทำการตามปกติ หลังหยุดยาวช่วงตรุษจีน คาดจีน และไต้หวันน่าจะปรับตัวขึ้นชดเชยที่ตลาดอื่น ๆ ปรับขึ้นในช่วงหยุดยาว สภาพัฒน์ประกาศ GDP 4Q55 วันนี้ เราคาดขยายตัว 15.4% YoY ตลาดคาด 15.3% YoY มอง SET แกว่งอิงแดนบวก ลุ้นทะลุแนวต้าน 1526-27 ผ่านได้เล็งเป้าแถว 1535-40 ระหว่างมีแรงขายทำกำไรเป็นระยะ แนวรับ 1510-14
กลยุทธ์การลงทุน : เน้นหุ้นหลักทรัพย์ ออกงบสัปดาห์นี้-มีปันผลสูง
ช่วงนี้ยังแนะนำเล่นเทรดดิ้งระยะสั้นอยู่ ขึ้นขาย-ลงซื้อ โดยเลือกเล่นในหุ้นงบดี-มีปันผล เน้นกลุ่มหลักทรัพย์เป็นหลัก อาทิ ASP, KGI, FSS เพราะน่าจะออกงบภายในสัปดาห์นี้ และ หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก แนะนำ BAY, HFT, SNC, WORK นอกจากนี้ เม็ดเงินจากทริกเกอร์ฟันด์ 3 กอง คาดราว 6 พันลบ.จะเข้าลงทุน 19 ก.พ. นี้ หุ้นที่น่าจะเป็นเป้าหมายการซื้อของทริกเกอร์ฟันด์ คือ BAY, BGH, INTUCH, JAS, MALEE, SAMART และ STPI (อิงจากหุ้นที่เคยอยู่ในพอร์ตของทั้ง 3 บลจ.ที่เสนอขายทริกเกอร์ฟันด์อยู่ในขณะนี้) นอกจากนี้ เรามองหุ้นที่มีแนวโน้มประมาณการกำไรและมูลค่าเหมาะสมถูกปรับขึ้นน่าจะเป็นเป้าหมายด้วย แนะนำ PF, SINGER, SRICHA, STEC
หุ้นเด่นรายวัน : FSS , TRT
FSS – คาดหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ที่เราชอบทั้ง ASP, KGI, FSS จะประกาศงบและจ่ายเงินปันผลในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ราคาและวอลุ่มเริ่มขยับอย่างมีนัยสำคัญ เราเลือกหุ้น FSS เพราะ (1) ราคายัง laggard โดยตั้งแต่ต้นปี (YTD) +14% เทียบกับ ASP +34% และ KGI +24% (2) ราคายังต่ำ BV ที่ 3.4 บ. (PBV 0.88x) และ (3) คาดจ่ายปันผลหุ้นละ 14 สต. คิดเป็น yield เกือบ 5%
TRT – ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้ารายเดียวในไทยที่ผลิตได้ทั้งหม้อแปลงไฟฟ้าระบบกำลัง (Power Transformer) และหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย (Distribution Transformer) ปัจจุบันมีงานในมือ 1.5 พันลบ. และอยู่ระหว่างรอผลงานประมูลใหม่มูลค่า 3.6 พันลบ. ซึ่งตามประวัติที่ผ่านมา โอกาสชนะจะอยู่ราว 20-25% กำไรปีนี้คาดโต 72% มาที่ 161 ลบ. จาก (1) การเลื่อนงานในมือมารับรู้รายได้ในปีนี้ (2) บริษัท แอล ดี เอส จำกัด (LDS) ที่เพิ่งเข้าไปถือหุ้น 85% เมื่อปลายปี 55 ซึ่งเป็นผู้ผลิตตู้เหล็กหม้อแปลงและชุดเหล็กแบบน็อกดาวน์ ขยายกำลังผลิตจาก 2.5 พันตัน เป็น 1 หมื่นตัน (3) TRT เองขยายกำลังการผลิตหม้อแปลงจาก 5 พันเมกกะวัตต์ เป็น 9 พันเมกกะวัตต์ (+80%) เพื่อรองรับความต้องการที่สดใส ทั้งตลาดส่งออก และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน (พลังลม, โซลาร์) ที่จะเกิดในปีนี้ มูลค่าเหมาะสม 7.85 บ. (PER 13.7 ปี 56F) ดูรายละเอียดบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม หน้า 2
ปัจจัยติดตาม
THตัวเลขยอดขายรถยนต์ของไทยในเดือน ม.ค.
18 ก.พ. USตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 4/55
19 ก.พ. EUตัวเลขผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจ (ZEW Survey) ของสหภาพยุโรปในเดือน ก.พ.
ข่าวเด่น