เบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรัลดลง 1.92 ปิดที่ 115.60 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือนมี.ค.(สิ้นสุดสัญญา)ปรับลดลง 2.20 ปิดที่ 94.46 เหรียญฯ (ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลดลง 1.88 ปิดที่ 95.22 เหรียญฯ)
- ราคาน้ำมันดิบเวสเท๊กซัสปิดร่วง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีความเห็นไม่สอดคล้องกันเกี่ยวกับระยะเวลาและปริมาณการซื้อพันธบัตร ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าเฟดอาจชะลอหรือยุติโครงการดังกล่าวก่อนที่อัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5%
-ยอดขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ เดือน ม.ค. หดตัวลง 8.5% สู่ระดับ 890,000 ยูนิต ขณะที่ดัชนีตลาดบ้านสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ. ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 46 จุด จากเดิมที่ 47 ในเดือน ม.ค. และสวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 48 จุด ทั้งนี้เนื่องจากความไม่มั่นใจเรื่องการจ้างงาน การอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัยและต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่แพงขึ้น
- นักลงทุนยังมีความไม่มั่นใจต่อปริมาณน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯสิ้นสุดวันที่ 15 ก.พ. โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ที่จะประกาศในคืนนี้ ที่คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลคงคลังคาดว่าจะลดลง 0.7 และ 1.6 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ
- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ณ วันที่ 15 ก.พ. 56 ปรับเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรล จากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่น้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลง 122,000 บาร์เรล น้อยกว่าที่คาดไว้ว่าจะปรับลดลดมากถึง 700,000 บาร์เรล ส่วนปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลงตามคาด 1.6 ล้านบาร์เรล
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนีชะลอตัวแตะ 1.7% ในเดือนม.ค.56 จากระดับ 2.0% ในเดือน ธ.ค.55 ในขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของฝรั่งเศสในเดือน ม.ค 56.ลดลง 0.5% จากเดือน ธ.ค. 55
- อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลง แต่ซาอุดิอาระเบียกลับมีแนวโน้มจะเพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากคาดว่าจะมีอุปสงค์จากจีนและเพื่อตอบสนองสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะฟื้นตัว ซึ่งอาจสร้างความกดดันต่อราคาน้ำมันดิบต่อไป
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของญี่ปุ่นที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 5.3% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความกังวลต่ออุปทานในภูมิภาค ประกอบกับยังคงมีอุปสงค์จากตะวันออกกลางและแอฟริกาในปริมาณที่เหมาะสม
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ เบรนท์ 112 -120 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 92-100 เหรียญฯ ส่วนคืนนี้ติดตามตัวเลขยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ดัชนีการผลิต (flash PMI) ดัชนีราคาผู้บริโภค และยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ รวมทั้งดัชนีชี้วัดภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ / ผลประกอบการไตรมาส 4/55 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้แก่
วันพฤหัส: ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ดัชนีภาคการผลิต (flash PMI) ดัชนีราคาผู้บริโภค และยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย รวมถึงดัชนีชี้วัดภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน /ฮิวเลตต์-แพคการ์ด/วอล-มาร์ต
วันศุกร์: ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ (Ifo) และจีดีพีไตรมาส 4 เยอรมนี (Final)
วันเสาร์: ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตจีน (flash) โดย HSBC
- ติดตามการเจรจาตัดลดรายจ่ายของสหรัฐฯ ที่มีเส้นตายในวันที่ 1 มีนาคม ว่าผลสุดท้ายจะออกมาในทิศทางใด ซึ่งล่าสุดยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่างพรรคดีโมเครตกับริพับริกัน
- ติดตามโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งของอิตาลีที่จะมีขึ้นในวันที่ 24-25 ก.พ. โดยโพลล่าสุดพบว่านายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งชูนโยบายยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัดกำลังมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนดังกล่าวส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรของประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นและสร้างความกังวลให้กับตลาด
- ติดตามปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ โดยเฉพาะในประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่สำคัญ อาทิ ปัญหาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก การปะทะกันอย่างต่อเนื่องระหว่างผู้สนับสนุนประธานาธิบดีกับกับผู้ต่อต้านในซีเรีย ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตล์เรื่องการสร้างที่อยู่อาศัยในเขตเวสต์แบงก์ รวมทั้งปัญหาในแอลจีเรีย อียิปต์และซูดาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันของโลก
ข่าวเด่น