ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดวันนี้ต้นสัปดาห์ ( 26 ก.พ.) ร่วง -4.01 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.26% ดัชนีอยู่ที่ 1,536.12 จุด ดัชนีสูงสุด 1,539.81 จุด ดัชนีต่ำสุด1,536.06 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4,257.64 ล้านบาท แต่หลังจากเทรดไปได้เพียง 14 นาที ดัชนีร่วงลงอีก ลบ 8.29 จุด ดัชนีที่ 1,531.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8,432.89 ล้านบาท
สาเหตุที่วันนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากตลาดหุ้นดาวโจนส์และตลาดหุ้นในยุโรปที่ปิดตลาดเมื่อคืนร่วงลงแรง โดยดัชนีดาวโจนส์ ดิ่งลงถึง 216.40 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 1.55% ดัชนีที่ 13,784.17 จุด และดัชนี S&P500 ลดลง -27.75 จุด ปิดที่ 1,487.85 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง -45.57 จุด ปิดที่ 3,116.25 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลงเกือบ -0.06% ปิดที่ 288.40 จุด
สาเหตุที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญเกือบทุกตลาดดำดิ่งลง ปัจจัยสำคัญเป็นผลจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอิตาลี ที่ผลการเลือกตั้งอออกมาอย่างไม่เป็นทางการ คะแนนยังไม่ขาดลอย ทำให้ตลาดเกิดความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้ตลาดคาดว่า นายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ซึ่งเป็นตัวเก็งอันดับต้นๆ จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ จากการชูนโยบายหาเสียงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่อิตาลีต้องปฏิบัติตามที่ได้ให้คำมั่นกับอียูเพื่อแลกกับการขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน
นอกจากนี้ อีกปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 เนื่องจาก HSBC รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนืลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 50.4 ในเดือนก.พ. เทียบกับระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 52.3 ในเดือนม.ค.
ข่าวเด่น