สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -0.97 จุด ขายทำกำไรตามหุ้นภูมิภาค

หุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนทั้งแดนบวกและลบในกรอบ 1570-86 แม้ SET เปิดขึ้นในภาคเช้า โดยทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 19 ปี ตามกระแสเงินทุนไหล หลังบาทแข็งสุดรอบ 2 ปี (ทะลุ 29.6 ฿/$ แต่ถูกขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาด กดดัน SET ติดลบ-ยุติการขึ้น 6 วันติดต่อกัน ต่างชาติซื้อสุทธิ 1.31 พันลบ. ?

ทิศทางตลาดวันนี้ : ผันผวนออกข้าง กรอบ 1565 ถึง 1585+/-

เมื่อคืนไม่มีตัวเลขศก.ที่สำคัญทั้งในฝั่งของอเมริกาและยุโรป ส่งผลให้ตลาดหุ้นโลกปิดบวกลบเล็กน้อยกระจัดกระจาย มอง SET แกว่งผันผวนออกข้าง มีกรอบแนวรับ 1565-70 แนวต้าน 1585+/- แนวโน้มเม็ดเงินยังไหลเข้าตลาดหุ้น หลังเงินบาทแข็งค่าระลอกใหม่ แต่ยังคงมีการขายทำกำไรต่อเนื่องระหว่างวัน ทำให้ผันผวน เพราะตลาดขณะนี้มีการเก็งกำไรสูงโดยเฉพาะหุ้นนอกกลุ่ม SET100 ?

กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นทยอยขาย ลงเก็บเทรดดิ้งระยะสั้น

เงินบาทที่แข็งค่าระลอกใหม่ ยังเป็นผลดีต่อแนวโน้มการไหลข้าวของเงินทุนต่างชาติ แม้ SET ขึ้นมามากและถึงเป้าระยะสั้นของเราแล้วที่บริเวณ 1580 แล้ว แต่เรายังมองบรรยากาศการลงทุนในเชิงบวกอยู่ ทำให้ยังสามารถเทรดดิ้งระยะสั้นได้ต่อไป โดยเลือกลงทุนเป็นหุ้นรายตัวเท่านั้น (Selective Buy) และพร้อมกำหนดจุดหยุดขาดทุนหรือล็อกกำไรทันทีเมื่อตลาดส่ออาการไม่ดี หุ้นเล่นสั้นช่วงนี้ แนะนำ KAMART, SINGER, SYMC กลุ่มหลักทรัพย์ (FIN) แนะนำ ASP, FNS, ZMICO และ หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก ADVANC, DTAC, INTUCH, AMC, FORTH TRT หุ้นลุ้นรีบาวด์ CNS, STEC ?

หุ้นเด่นรายวัน : SINGER , TRT

SINGER – เป็นหุ้นวิเคราะห์ใหม่ (Initiation of Coverage) ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 32 บ. (DCF) บริษัทเป็นนักสู้สามารถผ่านช่วงวิกฤติมาได้ทุกครั้งและยิ่งเติบโตใหญ่กว่าเดิม จากการพัฒนาสินค้าใหม่ (ตู้แช่ต่างๆ, ตู้เติมเงิน, ตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ, ตู้เติมเงินโทรศัพท์ออนไลน์) และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่องทั้งลูกค้าทั่วไปและลูกค้าเชิงพาณิชย์ ได้ประโยชน์จากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำและการบริโภคในปท.ที่โตดี (+4.4% ปี 56F) ส่งผลให้กำไรปีนี้คาดว่าจะโต 43% มาที่ 322 ลบ. (EPS = 1.19 บ.) ราคาหุ้นคิดเป็น PER 21 เท่าปี 56F เทียบกับหุ้นค้าปลีกเฉลี่ยที่ 35 เท่า ใกล้จะปันผล 30 สต. XD 14 มี.ค.

TRT – ปี 55 มีกำไรเพียง 30 ลบ. ลดลงจากปี 54 ถึง 85% จากการเลื่อนส่งมอบสินค้า (รอความพร้อมสถานที่ติดตั้งหม้อแปลง) แต่มองจะเป็นปีที่ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว แนวโน้มกำไรปีนี้จะโตแบบก้าวกระโดด (คาดโตเกือบ 4 เท่า มามีกำไรที่ 161 ลบ.) จากการรับรู้รายได้จากงานในมือที่สูงถึง 1.6 พันลบ. (รวมงานหม้อแปลงไฟฟ้าและตู้คอนเทนเนอร์น็อกดาวน์ที่พม่า) และโอกาสได้งานเพิ่มอีกจากการขยายตัวของธุรกิจพลังงานทดแทน ปันผลเป็นเงินสด 0.0111112 บ. และหุ้นในอัตราส่วน 10 : 1 (XD 2 พ.ค.) มูลค่าเหมาะสมก่อนและหลัง XD ที่ 7.85 บ. และ 7.22 บ. ตามลำดับ ?

ปัจจัยติดตาม

13 มี.ค. EU ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปในเดือน ม.ค.
 FR-SP ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของฝรั่งเศส-สเปนในเดือน ก.พ. (สุดท้าย)
  US ตัวเลขงบประมาณรายเดือน และยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ.
14 มี.ค. JP ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตของญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.
 SP ตัวเลขยอดค้าปลีกของสเปนในเดือน ม.ค.
 US ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯ ในไตรมาส 4/55 และดัชนีราคาผู้ผลิตในเดือน ก.พ.
  US ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 10 มี.ค.