ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน : น้ำมันดิบร่วง เหตุสต๊อกน้ำมันมากเกินคาด


 
เบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.(วันสิ้นสุดสัญญา)ปรับลดลง 1.13 ปิดที่ 108.52 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลดลง 0.02 ปิดที่ 92.52
 
- ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ โดยสานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขี้น 2.6 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า มากกว่านักวิเคราะห์การณ์ที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 384 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังลดลง 8 แสนบาร์เรล มาอยู่ที่ 3.6 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล
 
- นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานสากล(IEA)ปรับลดคาดการณ์ปริมาณการใช้น้ำมันโลกในปี 2556 ลง 60,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 90.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยขยายตัว 840,000 บาร์เรลต่อวันจากปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวมเปราะบางอยู่ อีกทั้งยังให้ความเห็นว่า หากมีเหตุการณ์อุปทานตึงตัวปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯจะสามารถเข้ามาชดเชยได้
 
- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอื่นแข็งค่าขึ้น 0.4% แตะระดับ 82.9 ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน
 
+ อย่างไรก็ดี น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบบริเวณ คุชชิ่ง โอคลาโฮม่า ที่ปรับลดลง 1.53 ล้านบาร์เรล ซึ่งทำให้ส่วนต่างระหว่างน้ำมันดิบเบรนท์ และน้ำมันดิบเวสเท็กซัสแคบลง ซึ่งคลายความกังวลต่อภาวะอุปทานตึงตัวปริมาณมากที่จุดส่งมอบนี้
 
+ ยอดขายปลีกสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนก.พ. มากกว่าที่คาดการณ์ที่ 0.5% ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. อันเป็นผลมาจากตลาดแรงงานและตลาดบ้านที่ปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซนเดือน ม.ค. ปรับลดลง 0.4% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 0.1%
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากการปิดซ่อมบารุงของโรงกลั่นในภูมิภาคจากัดอุปทาน ถึงแม้ว่าปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจะยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก
ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อันเป็นผลจากอุปทานที่มีลดลงในช่วงปิดซ่อมบารุงโรงกลั่นในภูมิภาค ถึงแม้ว่าเวียดนามและอินโดนีเซียซึ่งถือว่าเป็นผู้นาเข้าหลัก ลดปริมาณการนาเข้าก็ตาม
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น และปัจจัยที่น่าจับตามอง
 
กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้เบรนท์ 105-112 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 88-95 เหรียญ ตลาดเฝ้าจับตาการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลีและการผ่านแผนงบประมาณประจำปีของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
ส่วนในวันนี้ติดตามดุลบัญชีเดินสะพัดสหรัฐฯ ตัวเลขการจ้างงานยูโรโซน ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ รายงานธนาคารกลางยุโรป
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันพฤหัส: ดุลบัญชีเดินสะพัดสหรัฐฯ ตัวเลขการจ้างงานยูโรโซน ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ รายงานธนาคารกลางยุโรป

วันศุกร์: การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯและยูโรโซน ดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐนิวยอร์ค ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ(ม.มิชิแกน)
 
- จับตาการเปิดประชุมสภาของอิตาลี เพื่อการจัดตั้งคณะรัฐบาลใหม่ในวันที่ 15 มี.ค. หลังผลการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมายังไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากทั้งในสภาสูงและสภาล่าง ซึ่งถ้าหากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จอิตาลีอาจจำเป็นต้องมีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราวเพื่อรักษาการณ์จนกว่าจะมีการกำหนดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง
 
- ติดตามความคืบหน้าของการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสหรัฐฯ โดยวุฒิสภาในสัปดาห์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการที่สหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับภาวะขาดงบประมาณของประเทศซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 27 มี.ค. นี้ หลังร่างดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากสภาผู้ทนราษฎรแล้วเมื่อวันที่ 6 มี.ค.
 
- การเลือกตั้งของเวเนซุเอลาที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 เม.ย. นี้ ติดตามว่ารองประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโรจะได้รับเลือกตั้งตามที่อดีตประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซตั้งใจไว้หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างๆ ของประเทศและความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย
 
- ติดตามการกลับมาส่งออกน้ำมันซูดานใต้อีกครั้ง หลังความรุนแรงระหว่าซูดานและซูดานใต้คลี่คลายและมีข้อตกลงจะถอนกาลังทหารที่บริเวณชายแดนออกตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. เป็นต้นไป
 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 มี.ค. 2556 เวลา : 10:59:48

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:06 am