บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด แนะนักลงทุนจับตาหุ้น AIT ราคาเป้าหมาย ที่ 114.75 บาท , SCP ราคาเป้าหมาย110.40 บาท และ TASCO ราคาเป้าหมายที่86.0 บาท ชี้ ผลการดำเนินงานในอนาคต มีแนวโน้มสดใส สอดคล้องกับพื้นฐานที่เริ่มโดดเด่น มั่นใจราคาหุ้น มีลุ้นถึงราคาเป้าหมายได้ไม่ยาก
นายจักรกริช เจริญเมธาชัย กรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวแนะนำการลงทุนในช่วงขณะนี้ว่า ทางบล.โกลเบล็ก ได้ให้มุมองการลงทุนในหุ้นขณะนี้ โดยแนะนำหลักทรัพย์ที่น่าจับตา ได้แก่ หุ้น บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือAIT ราคาเป้าหมายที่เหมาะสม ที่ 114.75 บาท และแนะนำให้ทยอยซื้อเก็บหากราคาปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 81.50 บาท เนื่องจากมองว่า AIT เข้าร่วมทุนกับ LOXLEY ในการเข้าประมูล สัมปทานจัดการระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศในพม่า ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ ดังนั้นหากบริษัทฯชนะการประมูล จะช่วยหนุนให้กำไรปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า การประมูล 3G TOT เฟส2 ที่จะเกิดในปีนี้ มูลค่าโครงการ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะหนุนกำไรปี 2013 เติบโตแบบก้าวกระโดด
ขณะที่ AIT มี Backlog ปัจจุบัน ประมาณ 3.4 พันล้านบาท คาดยอดขายปี2556 ยังมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่อง โดยเราทางบล.ไว้ที่ระดับ 5.7 พันล้านบาท หรือปรับตัวสูงขึ้น 44% เทียบจากปีก่อน และจากแนวโน้มโครงการประมูลของภาครัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งผลการประมูลท่อร้อยสายของ PTT จะสร้าง Upside ให้กับประมาณการของเรา อย่างไรก็ตามราคายังคง laggard เมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันเทรดที่ระดับ Forward PE 10.7x เทียบ PEER ที่ 14.0x
นอกจากนี้ ยังแนะนำลงทุนในหุ้น บริษัท ทักษิณคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SCP โดยมองว่า SCP ยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง จากโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ทำให้สนับหนุนการใช้ท่อคอนกรีต อีกทั้ง โครงการขยายระบบไฟฟ้า ของ กฟภ.หนุนอุปสงค์เสาไฟฟ้าคอนกรีตอัดแรง รวมทั้ง Urbanization สร้างทางหลวงเชื่อม เหนือ ใต้ ออก ตก รองรับ AEC ก็ช่วยหนุนอุปสงค์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป
ขณะเดียวกันบริษัทฯได้รับคำสั่งซื้อ-งานตอกเสาเข็ม ในภูมิภาคเป็นจำนวนมาก แม้ค่าแรงจะปรับเพิ่มขึ้นแต่ถือว่ายังกระทบเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทมีมาตรการลดต้นทุนกระตุ้นมาร์จิ้นรองรับการประมูลภาครัฐในช่วง 5 ปีข้างหน้า กระตุ้นอุปสงค์รวมอุตสาหกรรม ผนวกกับแรงงานที่หายากจะส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการปรับราคาขายสินค้า ส่วนการขยายการลงทุนระบบคมนาคมขนส่งในพม่าจะหนุนการเติบโตระยะยาว (ซึ่งยังไม่อยู่ในประมาณการ)
ทั้งนี้ ทางบล.คาดกำไรปี2556 -2557 ที่ 276 ล้านบาท และ 336 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็น 13-14 EPS ที่ 9.20 /11.20 บาท/หุ้น และคาดราคาที่เหมาะสมปีนี้ ที่ 110.40 บาท Upside 53% หรือปัจจุบันซื้อขายที่ 13-14 PE เพียง 12-9.9 x เทียบกับกลุ่มวัสดุก่อสร้างขนาดเล็กที่มียอดขายต่ำกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งซื้อขายที่ Trailing PE ที่ 22x และ 13PE ที่ 18x และหากจะลงทุน แนะนำให้รอ “ซื้อ” ที่ราคา 72.25 บาท
พร้อมทั้ง แนะนำ หุ้นริษัทบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO แนะนำให้ “ซื้อ” ที่ราคา 59.25 บาท โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 86.0 บาท มองว่า Urbanization สร้างทางหลวงเชื่อม เหนือ ใต้ ออก ตก รองรับ AEC หนุนอุปสงค์ พร้อมๆกับประชานิยม ซึ่งจะนำความเจริญสู่ชนบท หนุนอุปสงค์ ส่วนประสิทธิภาพของโรงกลั่นที่มาเลเซียเพิ่มสู่ระดับ 8 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อการส่งออก และความสามารถในการจัดหาน้ำมันดิบเพื่อการผลิตยางมะตอย เพื่อการส่งออกไปยังอินโดนีเซีย-ออสเตรเลีย จะกระตุ้นการเติบโต
ขณะที่ลดความเสี่ยงจากจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลัก อีกทั้งคาดว่า ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และมีเสถียรภาพ ซึ่ง ความสามารถในการ Hedging จะหนุนมาร์จิ้นให้ปรับตัวเกิน 6.5% ตลอดทั้งปี ทำให้ คาดว่ากำไรปี2556 และ ปี2557 ที่ 1,096 -1,260 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13-14EPS ที่ 7.16/8.24 บาท/หุ้น
ข่าวเด่น