Gold

ราคาทองคำปรับตัวขึ้น หลังตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนมี.ค.อยู่ที่ 71.8 จุด ลดลงจาก 77.6 จุดในเดือน ก.พ. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 78.0 จุด และต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.54 เนื่องจากผู้บริโภคไม่พอใจนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล และประชาชนที่เชื่อว่าตลาดแรงงานจะดีขึ้นนั้นมีจำนวนน้อยลง อีกทั้ง ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐ เดือน ก.พ.ขยายตัว 0.7% จากเดือนก่อน ขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 52 เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มสูงขึ้น และดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัวขึ้น 2.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยยังไม่มีสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นจนเป็นอุปสรรคต่อการใช้มาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจของ FED เป็นปัจจัยให้นักลงทุนกังวลว่าศก.จะไม่ได้ขยายตัวจริงตามเป้าที่ FED ได้วางเอาไว้ และอาจส่งผลให้ FED ต้องคง QE3 ต่อไป ทำให้เกิดค่าเงินUSD อ่อนค่า ส่งผลบวกต่อราคาทองคำเมื่อวันศกร์ที่ผ่านมา

เช้านี้ราคาทองคำผันผวนมากพอสมควร เนื่องจากความวิตกกังวลต่อจากข่าว ยูโรโซนและไอเอ็มเอฟได้บรรลุข้อตกลงแผนการช่วยเหลือไซปรัสวงเงิน 1 หมื่นล้านยูโร ทั้งนี้เราคาดว่า นลท.มีความกังวลในต่อที่ว่า ไซปรัสอาจผิดนัดชำระหนี้ได้ในอนาคต ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ให้ทะลุแนวต้าน 1598 ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1608 แต่ไม่สามารถยืนได้ แต่กลับมีแรงเทขายลงมาที่เดิม

 เรายังมองการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเช่นเดิม และคาดว่ากลยุทธ์ขายสั้นๆจากค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่า แล้วค่อยกลับมาเข้าซื้อสะสม เมื่อราคาย่อลงมาลึก จะได้เปรียบว่าเช่นเดิม โดยหากวันนี้ราคาสามารถยืนเหนือ 1602/1605 ได้ ราคาทองคำจะปรับกรอบการลงทุนใหม่เป็นกรอบ 1602 – 1619 โดยมีกรอบล่างไว้คอยรองรับหากราคาปรับตัวลงมาที่ 1568 – 1598

Gold Futures

สร้างกรอบการเคลื่อนไหวในระยะสั้นที่ 1590 - 1608
 
แนวรับ ($/oz)
 1592
 1590
 1586
 
แนวต้าน ($/oz)
 1601
 1603
 1608
 1615
 
SET50

          ดัชนีSET50 ปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่  ตามดัชนี SET Index โดยเมื่อวันศุกร์ SET Index ปิดที่ 1,598.13 จุด เพิ่มขึ้น 11.34 จุด หรือ +0.71% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 76,830 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,988 ล้านบาท  โดยฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ได้กลับมารับความสนใจอีกครั้ง เนื่องจากคาดกันว่าสถาบันการเงินในประเทศอาจจะได้เพิ่มอันดับเครดิตในปลายเดือน มี.ค.นี้ หลังจากที่มูดี้ส์ได้เพิ่มอันดับเครดิตของประเทศไทยไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

   ทั้งนี้เรายังมอง ดัชนี SET50 เป็นแนวโน้มขาขึ้นอยู่ แต่ในระหว่างวันราคามีโอกาสลงมาเปิด Gap ทางเทคนิคก่อนได้ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1035/1028 นักลงทุนอาจพิจารณาลงทุน ขายสั้นๆ ลงมาก่อนโดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 1047  และกลับเข้ามาซื้ออีกครั้งเมื่อราคาปรับตัวลงมาต่ำๆ หรือที่แนวรับทางเทคนิค

SET50 Index Futures

สร้างกรอบการเคลื่อนไหวในระยะสั้นที่ 1037-1051
 
แนวรับ (pt.)
 1042
 1039
 1037
 
 
แนวต้าน (pt.)
 1046
 1048
 1051
 
 

Brent Crude Oil

 ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ขยายตัว 0.7% ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2552 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินพุ่งสูง แต่เช้านี้ราคากลับเปิด Gap ลงมาอีกครั้ง ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ราคา 108.35 เราคาดว่าปัจจัยลบที่ส่งผลคือ รายงายข่าวดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมี.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งปรับตัวลดลงแตะ 71.8 จากระดับ 77.6 ในเดือนก.พ. นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนธ.ค.2554 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 78.0 และเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2554 เนื่องจากผู้บริโภคไม่พอใจนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล  และมีชาวอเมริกันจำนวนน้อยกว่าเดิมที่เชื่อว่าเศรษฐกิจหรือตลาดแรงงานจะดีขึ้น อีกทั้งกลุ่มยูโรโซนเองเพิ่งประกาศให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ไซปรัส  ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มสมาชิก ทั้งนี้นลท.เกิดความวิตกกังวลถึง สามารถในการใช้หนี้คืนของไซปรัส ซึ่งอาจก่อปัญหาลุกลามใหม่อีกครั้ง

   ทั้งนี้กลยุทธ์ในการลงทุนสำหรับน้ำมันดิบนั้น ควรจะหาโอกาสซื้อเมื่อราคาย่อลง สลับกับการขายสั้นๆ จะได้เปรียบมากกว่าเนื่องจากค่าเงินบาทในประเทศ ยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่องในระยะกลาง

­Brent Crude Oil

สร้างกรอบการเคลื่อนไหวในระยะสั้นที่ 106.5-109.5
 
แนวรับ ($/bbl)
 107.5
 107
 106.5
 
แนวต้าน ($/bbl)
 108
 108.5
 109.5