สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -6.48 จุด ปัจจัยตปท.กดดัน

หุ้นไทยเปิดกระโดดลง 9 จุด และแกว่งตัวแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1587-96 จากปัจจัยลบตปท. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ มี.ค. ลดลงกว่าคาด และความกังวลหนี้ยุโรประลอกใหม่ หลังบรรดารมต.คลังยูโรโซนให้ไซปรัสเก็บภาษีกับผู้ฝากเงินในธนาคารเพิ่ม ต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 1.69 พันลบ. ?

ทิศทางตลาดวันนี้ : มีโอกาสเด้ง ทดสอบต้าน 1600-05 รับบาทแข็ง

หุ้นโลกเมื่อคืน (18 มี.ค.) ร่วงกันถ้วนหน้า หลังผู้นำสหภาพยุโรป (EU) มีแผนให้ไซปรัสเก็บภาษีกับผู้ฝากเงินในธนาคารเพิ่ม เพื่อช่วยลดต้นทุนการให้ความช่วยเหลือ ปัจจุบันรัฐสภาไซปรัสเลื่อนการลงมติกรณีดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด และธนาคารในไซปรัสยังคงปิดทำการถึงวันที่ 20 มี.ค. มอง SET แกว่งผันผวน จากความไม่แน่นอนในสถานการณ์ยุโรป อย่างไรก็ดี เงินบาทที่แข็งค่าสุดนับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 ล่าสุดอยู่ที่ 29.45 บ./$ และวันนี้ (19 มี.ค.) ครม.จะพิจารณา พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านลบ.เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ หากเห็นชอบ (ไม่เลื่อนเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา) ได้ลุ้น SET รีบาวด์เป็นบวก ทดสอบแนวต้าน 1600-05 แนวรับ 1585-87 ?

กลยุทธ์การลงทุน : หาจังหวะเทรดดิ้งสั้นในหุ้นรับเหมา-วัสดุก่อสร้าง

เรายังเน้นเลือกลงทุนเป็นหุ้นรายตัว (Selective Buy) และพร้อมกำหนดจุดหยุดขาดทุนหรือล็อกกำไรทันทีเมื่อตลาดส่ออาการไม่ดี หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านลบ. เพื่อการลงทุนภาครัฐ ชอบ  CK, ITD, STEC, BTS, KTB, TASCO หุ้นลุ้นรีบาวด์ GENCO, SMIT, SSI และ หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก AKP, SST ?

หุ้นเด่นรายวัน : BEAUTY , STEC

BEAUTY – เป็นหุ้นแนะนำใหม่ (Initiation of Coverage) บริษัทจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องตามการขยายสาขา 51 สาขาในปีนี้ และการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ทั้ง BIGC Extra , TESCO Lotus , TOPS เป็นต้น  เราคาดรายได้ขยายตัวเฉลี่ย 30% ต่อปี ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงถึง 71% ทำให้เราคาดว่ากำไรปี 56-58F จะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 31% ต่อปี นอกจากนี้ยังมี upside จากแผนการที่จะเปิดตัวสาขารูปแบบใหม่ แบรนด์ใหม่ที่จะจำหน่ายผ่านทางร้านสะดวกซื้อ และออนไลน์ ซึ่งจะมาช่วยหนุนรายได้ของบริษัท มูลค่าที่เหมาะสม 34 บาท (DCF) (ดูรายละเอียดเพิ่ม หน้า 2)

STEC – มีงานในมือ 6.2 หมื่นลบ. และจะประมูลงานใหม่อีกกว่า 1 แสนลบ. (คาดว่าจะได้งาน 3 หมื่นลบ. ณ สิ้นปี 56 ผู้บริหารคาดงานในมือจะแตะระดับ 7 หมื่นลบ. นอกจากนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการร่างกฎหมายเพื่อให้โครงการลงทุนภาคขนส่งมูลค่า 2 ล้านลบ. (ปี 56-62) และโครงการบริหารน้ำมูลค่า 3.5 แสนลบ. (56-61) มีผลบังคับใช้ไม่ว่ารัฐบาลใดจะมีอำนาจก็ตาม ฐานะการเงินบริษัทแข็งแกร่ง ราคายังขึ้นน้อย +52% YTD เมื่อเทียบกับ ITD +132% และ CK +112% มูลค่าเหมาะสม 37 บ. (PER 33 เท่าปี 56F) ? 

ปัจจัยติดตาม

19 มี.ค. 

TH ครม.พิจารณาร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านลบ.
 EU ตัวเลขผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจ (ZEW Survey) ของสหภาพยุโรปในเดือน มี.ค. รวมเยอรมัน
 IT ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีในเดือน ม.ค.
 US ตัวเลขการเริ่มและอนุญาตสร้างบ้านของสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ.

20 มี.ค. 

EU ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหภาพยุโรปในเดือน มี.ค. (เบื้องต้น)
US ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)

21 มี.ค. 

JP ตัวเลขดัชนีชี้วัดกิจกรรมของทุกภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.
EU ตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการของสหภาพยุโรปในเดือน มี.ค. (เบื้องต้น)