เมื่อใดที่สัญญาณของโลกอย่างใดอย่างหนึ่ง บ่งบอกว่ากำลังจะเกิดวิกฤติ ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตการเงิน หรือวิกฤตการเมือง ก็ตาม จะเห็นได้ว่าจะมีนักลงทุนในตลาดแห่เข้าซื้อทองคำ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยที่สุด โดยจะละทิ้งการถือหุ้นที่อยู่ในมือและเปลี่ยนมาถือเป็นเงินสดมากขึ้น พร้อมกับส่วนหนึ่งนำเงินไปลงทุนในสินทร้พย์ทองคำที่เป็นสินทรัพย์ที่เป็นสภาพคล่องสูง
และขณะนี้สถานการณฺ์ในยุโรปที่กำลังเผชิญปัญหาวิกฤติไซปรัสก็เช่นกัน ได้ทำให้นักลงทุนในตลาดทั้งตลาดหุ้นอเมริกา ตลาดหุ้นยุโรป ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย ทิ้งหุ้นบางส่วนที่ตนถืออยู่ และไปถือทองคำในมือแทน ทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะยังคงเป็นสัญญาณที่ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกว่าวิกฤติการณ์ในไซปรัสจะได้ข้อสรุปที่ทำให้สถานการณ์ทางการเงินคลี่คลายและไซปรัส่ไม่ถูกล้มละลาย่ รวมถึงไม่แพร่กระจายไปยังประเทศอื่นในยูโรโซนที่อ่อนแอ
ล่าสุด เมื่อคืนนี้ (21 มีนาคม) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ของนิวยอร์ก ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดตลาดเมื่อคืน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.3 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,613.8 ดอลลาร์/ออนซ์
โดยนักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไซปรัส และข้อมูลเศรษฐกิจในด้านลบของยูโรโซน จากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยื่นคำขาดว่าจะตัดความช่วยเหลือจากไซปรัสในวันจันทร์หน้า หากไซปรัสไม่สามารถระดมเงินทุนให้มากเพียงพอในการหลีกเลี่ยงภาวะล่มสลายทางการเงิน ขณะที่มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนมีนาคมปรับตัวลงสู่ระดับ 46.5 จาก 47.9 ในเดือนกุมภาพันธ์ส่วนดัชนี PMI เบื้องต้นของเยอรมนี อ่อนแรงลงมาอยู่ที่ 51.0 ในเดือนมีนาคม จาก 53.3 ในเดือนกุมภาพันธ์
ข่าวเด่น