เบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.19 เหรียญฯ ปิดที่ 107.66 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 1.26 ปิดที่ 93.71 เหรียญฯ + ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นตามข่าวดีจากทางไซปรัส หลังรัฐสภาไซปรัสมีมติผ่านร่างกฎหมายฉุกเฉินในโค้งสุดท้าย เพื่อจัดตั้งกองทุนด้านการเงินเพื่อระดมเงินทุนจำนวน 5,800 ล้านยูโร ตามข้อเสนอของธนาคารกลางยุโรปและไอเอ็มเอฟ เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือมูลค่า 10,000 ล้านยูโร ส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุนว่าไซปรัสจะสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด อย่างไรก็ตาม ไซปรัสได้ถูกเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวจากระดับ CCC+ มาอยู่ที่ระดับ CCC และให้แนวโน้มเป็นลบไปแล้วก่อนรัฐสภาไซปรัสจะยอมรับมาตรการจัดเก็บภาษีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนจ่อเนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอกาโฮมา ที่ปรับลดลง สิ้นสุด ณ วันที่ 15 มี.ค. 56 + ตลาดกำลังจับตามองการกลับมาดำเนินการขนส่งน้ำมันดิบของท่อขนส่งน้ำมัน ลองฮอน ที่กำลังการขนส่ง 225,000 บาร์เรลต่อวัน ที่คาดว่าจะกลับมาดำเนินการอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยจะช่วยให้ปริมาณน้ำมันดิบที่จุดส่งมอง คุชชิ่ง โอกาโฮมา ปรับลดลง ทั้งนี้คาดว่าท่อขนส่งน้ำมันนี้จะสามารถดำเนินการได้ที่กำลังขนส่งสูงสุดภายในไตรมาส 3 ปีนี้ - ไอเอมเอฟออกมาปรับลดอัตราการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้ มาอยู่ที่ 1.7% จากการประมาณการก่อนหน้าที่ 2.0% เนื่องจากการปรับเพิ่มภาษี และการตัดลดค่าใช้จ่ายรัฐบาลจำนวนเงิน 85 พันล้านเหรียญฯ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราการเติบโตที่ปรับลดลงจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ไอเอมเอฟยังคงอัตราการเติบโตของสหรัฐฯ ในปี 2557 ไว้ที่ระดับเดิมที่ 3% - การกลับมาของแหล่งผลิตน้ำมันดิบในทะเลเหนือได้ผ่อนคลายความกังวลของตลาด ต่ออุปทานน้ำมันดิบซึ่งมีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลกปรับลดลง โดยคาดว่าปริมาณการผลิตจะค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นเข้าสู่ระดับปกติภายในต้นเดือน เม.ย. ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ภายในภูมิภาคที่ปรับลดลง ประกอบกับปริมาณสำรองคงคลังที่สิงคโปร์ปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ตลาดยังกังวลถึงอุปทานที่จะปรับสูงขึ้น หลังโรงกลั่นภายในภูมิภาคกลับมาจากฤดูกาลการซ่อมบำรุง ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ภายในภูมิภาคที่ปรับลดลง รวมถึงการขนย้ายน้ำมันจากทางเอเซียไปยังฝั่งตะวันตกที่ยังปิดอยู่ ทำให้เกิดอุปทานส่วนเกินภาคในภูมิภาค ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้เบรนท์ 105-112 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 88-95 เหรียญ ติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิตาลีและการเสนอแผนการเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือของไซปรัส คืนนี้ติดตามดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางดัลลัส ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันจันทร์: ดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางดัลลัส วันอังคาร: ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีราคาบ้านสหรัฐฯ (S&P/CS) วันพุธ: ดัชนีราคาผู้บริโภค ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขายสหรัฐฯ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนี (GfK) วันพฤหัส: จีดีพีไตรมาส 4 (Final) และยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของเมืองชิคาโก ตัวเลขการจ้างงานเยอรมนี วันศุกร์: ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ (ม.มิชิแกน) รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลสหรัฐฯ - จับตาความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลี หลังในวันที่ 20-21 มี.ค. ประธานาธิบดีได้เรียกประชุมกับสมาชิกสภาเป็นครั้งแรกเพื่อพยายามจัดตั้งรัฐบาล หากไม่สำเร็จ อาจทำให้อิตาลีต้องมีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราว จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง - ติดตามการชำระหนี้ของไซปรัส หลังรัฐสภาไซปรัสมีมติยอมรับการเก็บภาษีจำนวน 5,800 ล้านยูโรกับผู้ฝากเงินตามเงื่อนไขที่แนบมา ตามข้อเสนอของอียูและไอเอมเอฟเพื่อรับเงิขช่วยเหลือจำนวน 10,000 ล้านยูโร - ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรียหลังมีการยิงระเบิดที่หลายฝ่ายสงสัยว่ามีส่วนผสมของอาวุธเคมีซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยล่าสุดทั้งรัฐบาลและกลุ่มผู้ต่อต้านเรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว - ติดตามเหตุยิงระเบิดจากฉนวนกาซาร์เข้ามายังอิสราเอลระหว่างการเยือนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าเป็นการเยือนเพื่อสมานความสัมพันธ์มากกว่าที่จะเป็นการเสนอนโยบายที่เป็นรูปธรรมเพื่อยุติความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
ข่าวเด่น