เบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.51 เหรียญฯ ปิดที่ 108.17 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 1.10 ปิดที่ 94.81 เหรียญฯ + ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวต่อเนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อน หลังจากที่ไซปรัสสามารถระดมทุน 5,800 ล้านยูโร ตามข้อเสนอของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) และธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) เพื่อนำไปสู่การรับมอบเงินช่วยเหลือ 10,000 ล้านยูโร ก่อนพ้นกำหนดเส้นตายวานนี้ โดยทางไซปรัสตกลงที่จะปิดธนาคารไซปรัสป๊อปปูลาร์ หรือ ไลกิ ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ โดยรัฐบาลจะคุ้มครองบัญชีเงินฝากที่มียอดต่ำกว่า 100,000 ยูโร และโอนไปอยู่กับแบงก์ ออฟ ไซปรัส ส่วนยอดเงินฝากที่สูงกว่า 100,000 ยูโร ของทั้งแบงก์ไลกิ และแบงก์ ออฟ ไซปรัส จะถูกอายัดไว้เพื่อชำระหนี้แบงก์ไลกิ และเพิ่มทุนแบงก์ ออฟ ไซปรัส ที่อาจจะมีการแปลงเงินฝากเป็นหุ้น + นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าวิกฤตในไซปรัสจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงกับประเทศในยูโรโซน เนื่องจากแนวทางการแก้ไขข้างต้นจะช่วยให้ปัญหาอยู่ในวงจำกัด และไม่ทำให้ไซปรัสเข้าสู่ภาวะล้มละลายที่ควบคุมไม่ได้และต้องออกจากยูโรโซนไปในที่สุด - นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนวันพุธ จะปรับเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้น โดยที่ตลาดจับตาตัวเลขสต็อกที่จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮม่าจะปรับลดลงหรือไ ม่ - ราคาน้ำมันถูกแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าแนวทางการแก้วิกฤตหนี้ในไซปรัสอาจจะเป็นตัวอย่างให้ประเทศอื่นๆ ในยูโรโซนที่ต้องการเงินช่วยเหลือจะต้องปฏิบัติตาม ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของระบบธนาคารในยูโรโซน ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตามปัจจัยพื้นฐานในระยะสั้นเริ่มถูกกดดันจากอุปทานที่จะปรับเพิ่มขึ้นหลังจากโรงกลั่นในภูมิภาคที่จะกลับมาจากการซ่อมบำรุง ในขณะที่เวียดนามมีแนวโน้มที่จะนำเข้าลดลง ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ประกอบกับแรงซื้อจากอินโดนีเซียที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันดีเซลใหญ่ที่สุดในภูมิภาคมีแนวโน้มจะปรับลดลงถึง 1 ใน 3 เนื่องจากความต้องการใช้ในประเทศปรับลดลง ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้เบรนท์ 105-112 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 88-95 เหรียญ ติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิตาลี และจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญคืนนี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคาร: ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีราคาบ้านสหรัฐฯ (S&P/CS) วันพุธ: ดัชนีราคาผู้บริโภค ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขายสหรัฐฯ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนี (GfK) วันพฤหัส: จีดีพีไตรมาส 4 (Final) และยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของเมืองชิคาโก ตัวเลขการจ้างงานเยอรมนี วันศุกร์: ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ (ม.มิชิแกน) รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลสหรัฐฯ - จับตาความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลี หลังในวันที่ 20-21 มี.ค. ประธานาธิบดีได้เรียกประชุมกับสมาชิกสภาเป็นครั้งแรกเพื่อพยายามจัดตั้งรัฐบาล หากไม่สำเร็จ อาจทำให้อิตาลีต้องมีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราว จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง - ติดตามการชำระหนี้ของไซปรัส หลังได้รับเงินช่วยเหลือมูลค่า 10,000 ล้านยูโรจาก ไอเอ็มเอฟ และธนาคารกลางยุโรป - ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรียหลังมีการยิงระเบิดที่หลายฝ่ายสงสัยว่ามีส่วนผสมของอาวุธเคมีซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยล่าสุดทั้งรัฐบาลและกลุ่มผู้ต่อต้านเรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว - ติดตามเหตุยิงระเบิดจากฉนวนกาซาร์เข้ามายังอิสราเอลระหว่างการเยือนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าเป็นการเยือนเพื่อสมานความสัมพันธ์มากกว่าที่จะเป็นการเสนอนโยบายที่เป็นรูปธรรมเพื่อยุติความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
ข่าวเด่น