เบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 1.19 เหรียญฯ ปิดที่ 109.36 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 1.53ปิดที่ 96.34เหรียญฯ + ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวต่อเนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อน จากยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนดัชนีราคาบ้านสหรัฐฯ และดัชนีภาคอุตสาหกรรมที่ดีขึ้น โดยที่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 5.7 เปอร์เซนต์จากเดือนกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะการขยายตัวยานพาหนะ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดจะขยายตัวเพียง 3.5% ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม ปริมาณการค้าของอิเล็กโทรนิคส์เพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซนต์จากปริมาณเฉลี่ยสามเดือน แม้ว่ายอดขายบ้านใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ ปรับลงลด 4.6เปอร์เซนต์จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 411,000 ยูนิต + จากการที่ไซปรัสสามารถระดมทุน 5,800 ล้านยูโร ตามข้อเสนอของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) และธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) จนได้รับเงินช่วยเหลือ10,000 ล้านยูโรทำให้สถานการณ์ในไซปรัสที่คลี่คลายไปในทางที่ดี และจากตัวเลขเศรษฐกิจทีดีของสหรัฐฯข้างต้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น - สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 3.7ล้านบาร์เรลจากที่คาดการณ์ไว้ 700,000 บาร์เรล สวนทางกับปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลที่ปรับลดลง 2 ล้านบาร์เรล และ19 ล้านบาร์เรลตามลำดับแม้โรงกลั่นจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นถึง 1.8 เปอร์เซนต์ก็ตาม - จากตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในด้านบน และการเพิ่มปริมาณการขนส่งทางท่อของน้ำมันภายในประเทศ ส่งผลให้ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ซึ่งส่งผลต่อส่วนต่างของเบรนท์และเวสต์เท็กซัสลงมาที่ 12.52 เหรียญต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากการคาดการณ์ว่าความต้องใช้น้ำมันเบนซินของอเมริกาจะเพิ่มขึ้น ท่ามกลางช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในภูมิภาค ถึงแม้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคจะลดลงก็ตาม ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาค โดยเฉพาะเวียดนามลดลง รวมไปถึงจีนและอินเดียส่งออกน้ำมันดีเซลมากขึ้นด้วย ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้เบรนท์ 105-112 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 92-97 เหรียญ ติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิตาลี และจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ สำคัญคืนนี้ ได้แก่ดัชนีราคาผู้บริโภค ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขายสหรัฐฯ ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคาร: ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีราคาบ้านสหรัฐฯ (S&P/CS) วันพุธ: ดัชนีราคาผู้บริโภค ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขายสหรัฐฯ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนี (GfK) วันพฤหัส: จีดีพีไตรมาส 4 (Final) และยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของเมืองชิคาโก ตัวเลขการจ้างงานเยอรมนี วันศุกร์: ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ (ม.มิชิแกน) รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลสหรัฐฯ - จับตาความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลี หลังในวันที่ 20-21 มี.ค.ประธานาธิบดีได้เรียกประชุมกับสมาชิกสภาเป็นครั้งแรกเพื่อพยายามจัดตั้งรัฐบาล หากไม่สำเร็จ อาจทำให้อิตาลีต้องมีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราว จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง - ติดตามการชำระหนี้ของไซปรัส หลังได้รับเงินช่วยเหลือมูลค่า 10,000 ล้านยูโรจาก ไอเอ็มเอฟ และธนาคารกลางยุโรป - ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรียหลังมีการยิงระเบิดที่หลายฝ่ายสงสัยว่ามีส่วนผสมของอาวุธเคมีซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยล่าสุดทั้งรัฐบาลและกลุ่มผู้ต่อต้านเรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว - ติดตามเหตุยิงระเบิดจากฉนวนกาซาร์เข้ามายังอิสราเอลระหว่างการเยือนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าเป็นการเยือนเพื่อสมานความสัมพันธ์มากกว่าที่จะเป็นการเสนอนโยบายที่เป็นรูปธรรมเพื่อยุติความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
ข่าวเด่น