เบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.33 เหรียญฯ ปิดที่ 109.69 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.24 ปิดที่ 96.58เหรียญฯ + ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันดิบในสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น หลังสำนักงานด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานว่า อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 2.2% จากสัปดาห์ก่อนมาอยู่ที่ 85.7% โดยกำลังการผลิตปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 20 ปี มาอยู่ที่ 7.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกทั้งปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันกลุ่มดีเซลคงคลังลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล - อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 385.9 ล้านบาร์เรล ต่างจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่เพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่บริเวณคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับเพิ่มขึ้น 439,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.5 ล้านบาร์เรล + น้ำมันดิบเบรนท์ได้รับแรงหนุนจากการที่เกาหลีใต้เลื่อนการตัดสินใจสิทธิประโยชน์ทางภาษีของน้ำมันดิบนำเข้าเพื่อกลั่นเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมส่งออก 3 เดือน โดยโรงกลั่นเกาหลีใต้จะสามารถนำเข้าน้ำมันดิบเบรนท์โดยปลอดภาษี และสามารถยื่นขอภาษีคืนได้เมื่อส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่อไป ทำให้คาดว่าอุปสงค์น้ำมันดิบเบรนท์จะยังคงมีต่อเนื่องต่อไป - อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร อันเป็นผลมากจากค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากความกังวลของตลาดต่อยูโรโซน หลังจากต้นทุนการออกพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีระยะเวลา 5ปี พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน อีกทั้งวิกฤติทางการเงินของไซปรัสก็ยังไม่มีภาพที่ชัดเจนว่าจะมีผลต่อตลาดอย่างไร - ตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนและสหรัฐฯที่ออกมาไม่ดีนัก โดยดัชนีความรู้สึกผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจปรับลดลงมาอยู่ที่ 90.0 ในเดือนมี.ค. จาก 91.1 ต่างจากที่คาดการณ์ไว้ที่ 90.4 ถือได้ว่าเป็นการปรับลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน จีดีพีไตรมาส 4/2555 ของฝรั่งเศส เป็นไปตามที่คาดหมายที่ -0.3% และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมัน (GFK)เดือนเม.ย.คงที่อยู่ที่ 5.9 จากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ดัชนียอดสัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขายของสหรัฐฯในเดือนก.พ. ลดลง 0.4% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 104.8 ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่ากว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อันเป็นผลมาจากอุปทานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นของจีน เนื่องจากจีนปรับลดราคาค้าปลีกน้ำมันในประเทศ ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่เบาบาง อีกทั้งปริมาณการส่งออกของจีนและอินเดียที่ยังมีต่อเนื่อง ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้เบรนท์ 105-112 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 92-97 เหรียญ ติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิตาลี และจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ สำคัญคืนนี้ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 4 (Final) และยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของเมืองชิคาโก ตัวเลขการจ้างงานเยอรมนี ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพฤหัส: จีดีพีไตรมาส 4 (Final) และยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของเมืองชิคาโก ตัวเลขการจ้างงานเยอรมนี วันศุกร์: ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ (ม.มิชิแกน) รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลสหรัฐฯ - จับตาความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลี หลังในวันที่ 20-21 มี.ค.ประธานาธิบดีได้เรียกประชุมกับสมาชิกสภาเป็นครั้งแรกเพื่อพยายามจัดตั้งรัฐบาล หากไม่สำเร็จ อาจทำให้อิตาลีต้องมีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราว จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง - ติดตามการชำระหนี้ของไซปรัส หลังได้รับเงินช่วยเหลือมูลค่า 10,000 ล้านยูโรจาก ไอเอ็มเอฟ และธนาคารกลางยุโรป - ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรียหลังมีการยิงระเบิดที่หลายฝ่ายสงสัยว่ามีส่วนผสมของอาวุธเคมีซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยล่าสุดทั้งรัฐบาลและกลุ่มผู้ต่อต้านเรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว - ติดตามเหตุยิงระเบิดจากฉนวนกาซาร์เข้ามายังอิสราเอลระหว่างการเยือนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าเป็นการเยือนเพื่อสมานความสัมพันธ์มากกว่าที่จะเป็นการเสนอนโยบายที่เป็นรูปธรรมเพื่อยุติความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
ข่าวเด่น