สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทางการเกาหลีเหนือออกมาประกาศว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยให้กับสถานทูตและเจ้าหน้าที่่ทูตของประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในประเทศได้ เนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียด
บริเวณคาบสมุทรเกาหลีกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งได้ส่งสารแจ้งเตือนไปยังสถานทูตต่าง ๆ แล้ว ว่าให้เร่งอพยพเจ้าหน้าที่ รวมถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในเกาหลีเหนือออกจากประเทศภายในวันที่ 10 เมษายนนี้
อย่างไรก็ตาม หลังรับทราบการแจ้งเตือนดังกล่าว ทางการรัสเซียและอังกฤษ ยืนกรานว่ายังไม่มีแผนอพยพเจ้าหน้าที่ทูตออกจากกรุงเปียงยาง
นายเดนิส แซมโซนอฟ โฆษกสถานทูตรัสเซียประจำเกาหลีเหนือ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากทางการเกาหลีเหนือ ให้อพยพเจ้าหน้าที่พนักงานออกจากสถานทูตในกรุงเปียงยาง และสถานทูตต่างชาติอื่นๆ ก็ได้รับแจ้งเช่นเดียวกันนี้ แต่ทางการรัสเซีย จะยังไม่พิจารณาดำเนินการตามคำร้องขอของทางการเปียงยางในขั้นตอนนี้ เนื่องจากยังไม่ปรากฎสัญญาณของความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในเมืองหลวงของเกาหลีเหนือ
ด้านโฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ แถลงที่กรุงลอนดอนว่า ได้รับแจ้งจากทางการเกาหลีเหนือ ซึ่งเกาหลีเหนือ มีความรับผิดชอบตามอนุสัญญาเวียนนา ในการปกป้องคุ้มครองคณะเจ้าหน้าที่การทูต และรัฐบาลอังกฤษเชื่อว่าเกาหลีเหนือได้ดำเนินการตามข้อตกลงดังกล่าว อันเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการจิตวิทยาต่อต้านภัยคุกคามของสหรัฐ
ขณะที่ นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่รู้สึกประหลาดใจหากเกาหลีเหนือจะทำการทดสอบขีปนาวุธครั้งใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมา เกาหลีเหนือก็เคยมีการทดสอบขีปนาวุธแล้ว ซึ่งทางการสหรัฐฯเตรียมพร้อมรับสถานการณ์หากเกิดเหตุการณ์โจมตีจากเกาหลีเหนือด้วยการเคลื่อนระบบป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธไว้ที่ฐานทัพบนเกาะกวมแล้ว
ข่าวเด่น