สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -38.93 จุด กังวลการเมืองทั้งในและตปท.
หุ้นไทยยังผันผวนสูง จากความไม่แน่นอนในสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี และการเมืองในปท. ทั้งร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านลบ.จะขัดรธน.หรือไม่ และการแก้ไขรธน.ที่อาจจุดชนวนความขัดแย้งรอบใหม่ ต่างชาติขายสุทธิต่ออีก 3.9 พันลบ. ส่งผลให้นับแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) มียอดขายสุทธิ 5.08 พันลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลุ้นเด้ง แต่กรอบขึ้นน่าจะจำกัดแถว 1500-15
หุ้นโลกเมื่อคืนวันจันทร์ (8 เม.ย.) ปรับขึ้น นลท.คาดหวังเชิงบวกต่อผลประกอบการไตรมาส 1/56 ที่จะเริ่มทยอยประกาศในช่วงนี้ (JPMorgan Chase & Co., Wells Fargo & Co. และ Bed Bath & Beyond Inc จะเปิดเผยกำไรในสัปดาห์นี้) และตัวเลขศก.หลายตัวออกมาดีขึ้น อาทิ คำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานของเยอรมัน ก.พ. +2.3% MoM ดีกว่าคาดที่ +1.1% และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันที่ +0.5% MoM vs คาด +0.3%
นอกจากนี้ อัตราการว่างงานสหรัฐฯ เดือน มี.ค. ยังลดลงจาก 7.7% ในเดือนก่อนหน้า มาที่ 7.6% (คาดที่ระดับ 7.7%) มอง SET ที่ลงหนักเมื่อวันศุกร์ (5 เม.ย.) มีโอกาสดีดกลับ แต่กรอบขึ้นน่าจะจำกัดแถว 1500-15 เนื่องจากยังหลายปัจจัยกดดันอยู่ เช่น สถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี, การเมืองในปท. และต่างชาติเทขายหุ้นหนักต่อเนื่อง มองแนวรับ 1480+/- แนวต้าน 1500-15
กลยุทธ์การลงทุน : Wait & See ต่อ ถ้าเทรดดิ้งสั้นเน้นจบในวัน
SET อาการไม่ดี หลังระดับ 1500 จุดเอาไม่อยู่ ต้องติดตามจุดต่ำสุดครั้งล่าสุดที่ 1480 ว่าจะสามารถยืนได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้หรือไม่ หากได้ จะเป็นจังหวะเริ่มทยอยสะสม แต่หากไม่ได้ จุดต่ำสุดเดิมที่ 1465 จะถูกทดสอบในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งมีโอกาสสูงที่อาจมีจุดต่ำสุดใหม่ ดังนั้น ภาพรวม เรายังแนะนำ “Wait & See” ไปก่อน แต่สำหรับนลท.ที่กล้าเสี่ยงต้องการเทรดดิ้งสั้นวันนี้ เน้นให้จบในวัน ลองดูหุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก-ลุ้นรีบาวด์ คือ AKR, CGD, GFPT, MPIC, NWR, PM, SUPER อนึ่ง ตลท.ให้ ADAM, CYBER, EVER, GRAND, TWZ ติด Cash Balance 9 เม.ย. – 17 พ.ค.
หุ้นเด่นรายวัน : AKR , PM
AKR – มองกำไร 1Q56F น่าจะออกมาดี จากการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือมูลค่า 700 ลบ. โดยคาดว่าจะพลิกจากขาดทุนใน 1Q55 เป็นกำไร ผู้บริหารคาดหลังสงกรานต์ จะรู้ผลงานประมูลทั้งภาครัฐและเอกชน ล่าสุดเพิ่งได้งานจากตปท. 63 ลบ. บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้โต 10% เตรียมจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.0055556 บ. และเป็นหุ้นในอัตราส่วน 16 : 1 ขึ้น XD วันที่ 13 พ.ค.
PM – ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ หลังบริษัทร่วมงาน Opportunity Day มีโบรกเกอร์หลายแห่งแนะนำหุ้น PM จากแนวโน้มการเติบโตสดใส บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10% จากตลาดขนมคบเคี้ยวที่โตต่อเนื่อง ใน 1-3 ปีข้างหน้า จะขยายกำลังการผลิตทาโร่เพิ่มขึ้น 20% เพื่อส่งออกไปยังตปท. (ตลาด AEC) เพื่อผลักดันการเติบโตระยะยาว กำไรปี 56F คาดโต 22% มาที่ 497 ลบ. (EPS = 0.77 บ.) ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PER 12.7 เท่าปีนี้ และจะเหลือ 10.4 เท่าปีหน้า มูลค่าเหมาะสม 13.2 บ. (CONSENSUS)
ปัจจัยติดตาม
9-22 เม.ย.
THธนาคารพาณิชย์ของไทยทยอยออกงบ 1Q56
9 เม.ย.
CHตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนในเดือน มี.ค.
UKตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษในเดือน ก.พ.
USตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ.
10 เม.ย.
CHตัวเลขส่งออก-นำเข้า และดุลการค้าของจีนในเดือน มี.ค.
FR-IT-SPตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปนในเดือน ก.พ.
ITประมูลตั๋วเงินคลังอิตาลี
ข่าวเด่น