กลยุทธ์วันนี้ : Quiet
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา หลุด 1500 จุดลงมาปิดที่ 1489.53 จุด ลบ 38.93 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,850 ล้านบาท เนื่องจากช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของไทย และตลาดหุ้นเอเชียลบแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง HSKI - KOSPI
ต่างชาติยังคงเร่งลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 ขายสุทธิมากถึง 3,905 ล้านบาท YTD ขายสุทธิ 5,077 ล้านบาท แต่กลับมา Long สุทธิใน Index Futures เป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการเพียง 104 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 21 เพียง 23 ล้านบาท
ทิศทางการลงทุนในวันนี้
MBKET คาด SET INDEX ยังมีความผันผวนสูง แม้ว่าจะขาดปัจจัยบวกและลบใหม่เข้ามากำหนดทิศทางการลงทุนก็ตาม แต่ด้วยเป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย มูลค่าการซื้อขายเบาบาง ภาพทางเทคนิคส่งสัญญาณเป็นลบ บวกกับความกังวลบนคาบสมุทรเกาหลีที่เพิ่มแรงกดดันมากขึ้นเป็นลำดับ
การฟื้นตัวของ SET INDEX จะยังจำกัด 1,520+/- เท่านั้น ขณะที่แนวรับ 1,480 จุดที่เหมือนแข็งแกร่ง แต่ในความเห็นของ MBKET ยังมีความเปราะบางอยู่ไม่น้อย แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติจะเป็นตัวแปรเชิงลบที่ต้องติดตาม
ดังนั้นการเก็งกำไรต่อความผันผวนเช่นนี้ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ควรจำกัดวงเงินการเก็งกำไร พร้อมกับวินัยการตั้งจุด Stop Loss และจุดขายทำกำไรอย่างเคร่งครัด
MBKET แนะนำให้ “คงพอร์ตหุ้น 45% และเงินสด 55%” เพื่อรอจังหวะของการกลับเข้าทยอยสะสมหุ้นหลักอีกครั้ง คาดว่าจะเป็นในช่วงเดือนพ.ค.
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : MBKET แนะนำ “ถือพอร์ต” และ “ซื้อเก็งกำไร” TRUE
กลยุทธ์ทางเลือกวันนี้: MBKET แนะนำ “พอร์ตตัดขาดทุนไปแล้ว หลังศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปรับลงต่ำกว่า 1003 จุด กรณีที่จะกลับเข้าเปิด Long เล่นรอบรายวัน” พิจารณาไม่หลุด Low 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ณ ระดับ 968.70 จุด ต่ำกว่าพิจารณาด้าน Short กลับมาได้เปรียบ
Portfolio HOLD: SPCG/ BTS/ IRPC/ TPIPL/ INET/ KK/ MFEC/ LOXLEY/ TRUE/CK/ AIT/ SIMAT/DEMCO/ ILINK/ THCOM/ ADVANC/ TASCO/ AP/ BAY/ KTB/ SVOA/ QH
Speculative Buy: TRUE
Technical View แนวรับ 1480 +/- และ 1465 +/- จุด คงคำแนะนำในเชิงระมัดระวัง และเน้นรอสัญญาณบวกจากการพลิกตัวขึ้นเหนือแนวเส้นเฉลี่ย 5 วัน ล่าสุดอ่อนแรงมาอยู่บริเวณ 1520 +/- สำหรับเข้าซื้อเพิ่มในรอบใหม่
Action and Stock of the Day
SET INDEX ปรับฐานลงอีกครั้ง หลุด 1500 จุด
SET INDEX วันนี้ ยังผันผวน มูลค่าการซื้อขายเบาบาง
กลยุทธ์การลงทุน ถือพอร์ตการลงทุนที่จำกัดวงเงิน ทั้งนี้นักลงทุนที่เก็งกำไรระยะสั้น ควรตัดขาดทุน หาก SET INDEX หลุดแนว 1,480 จุด
ตลาดหุ้นเอเชียวันศุกร์ที่ผ่านมา HSKI ลบถึง 2.53% จากความกังวลไข้หวัดนกที่ระบาดอย่างรวดเร็ว ขณะที่ KOSPI -1.64% จากความกังวลเกาหลีเหนือ
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเปิดปรับฐานลงอีกครั้ง หลังนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่นในวันก่อนหน้า อีกทั้งบรรยากาศการลงทุนรอบเอเชียเป็นลบ การเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย ทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง ยิ่งกดดันให้ SET INDEX ปรับฐานลงแรงได้ง่าย ปิด ณ วันศุกร์ที่ 5 เม.ย. ลบ 38.93 จุด หรือ 2.55% มาอยู่ที่ 1489.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,850 ล้านบาท
กลุ่มที่ปิดบวกมีเพียง 2 กลุ่มได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +0.58% และกลุ่ม Professional +0.52% ขณะที่กลุ่มหลัก อย่างกลุ่มธนาคาร -2.40%, กลุ่ม ICT -2.86% และกลุ่มพลังงาน -2.17%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นในเอเชียเช้าวันนี้ (7.43 น.) เปิดบวกทุกตลาด ตามทิศทาง DJIA คืนวานนี้ อีกทั้งค่าเงินเยนญี่ปุ่นที่อ่อนค่าทะลุ Yen99/US$ กลายเป็นปัจจัยบวกต่อ NIKKEI ในเช้าวันนี้
การลงทุนในวันนี้ MBKET ยังคงเชื่อว่า SET INDEX ยังมีความผันผวน การแกว่งตัวในกรอบกว้าง เพราะมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง ขาดประเด็นการลงทุนใหม่ ความเสี่ยงบนคาบสมุทรเกาหลี ต่างกดดันการฟื้นตัวของ SET INDEX ในช่วงสั้น MBKET คาดว่า 1,520+/- ยังคงเป็นแนวต้านที่จะทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง
MBKET แนะนำให้นักลงทุน “ถือพอร์ตการลงทุน 45% และเงินสด 55%” เพื่อรอจังหวะการเข้าสะสมหุ้นหลักในอีกครั้ง คาดว่าจะเป็นในช่วงเดือนพ.ค. ขณะที่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถเก็งกำไรด้วยการจำกัดวงเงิน พร้อมวินัยการลงทุนทั้ง stop loss และ ระดับการขายทำกำไรอย่างเข้มงวด
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1. การเมืองภายในประเทศยังคงจำกัด Upside Gain ของตลาดหุ้นไทย
a. การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เข้าสู่วาระที่ 2 ในอีก 30-45 วันข้างหน้า ระหว่างนี้ ศาลฯ อาจสรุปผลการวินิจฉัยต่อการกรณีที่ 40 สว. ยื่นให้พิจารณาในกรณีได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้ศาลฯ ได้ขอให้ 40 สว.ที่ยื่นคัดค้านเข้าให้การชี้แจง 15 วันหลังยื่น หรือช่วงเวลา 15-19 เม.ย.
b. การให้คำถ้อยแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลก กรณีพื้นที่ทับซ้อน เขาพระวิหาร วันที่ 15-19 เม.ย.
ความเสี่ยงดังกล่าว กลายเป็นจุดที่ SET INDEX ควรจะกับเข้าซื้อขาย PER13 ที่เส้นค่าเฉลี่ย 12-13x เท่านั้น จากเดิมตลอด 3-4 เดือนที่ซื้อขายในระดับ Premium ราว 14x แต่หากเกิดกรณีที่เกิดนอกเหนือการควบคุม / ปิดความเสี่ยง โอกาสที่ SET INDEX จะปรับฐานลงแรง หลุดแนว 1,480 จุด สู่บริเวณ 1,400+/- ก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งระยะเวลาอยู่ในช่วงปลายเดือนเม.ย. ต่อเนื่องถึงเดือนพ.ค.
2. ต่างชาติน่าจะออกมาเป็นขายสุทธิต่อเนื่องช่วงสั้น: ยอดการขายสุทธิ YTD ของนักลงทุนกลุ่มนี้ 5,077 ล้านบาท ย่อมเท่ากับเป็นการนำพอร์ตการลงทุนในเดือนธ.ค. 2555 มาทยอยขายทำกำไร ซึ่งเป็นเดือนแรกที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 23,025 ล้านบาท SET INDEX เฉลี่ยในเดือนธ.ค.ที่ 1,362.37 จุด และค่าเงินบาท 30.62 บาท/US$ เมื่อเกิดความเสี่ยงทางการเมืองภายในประเทศ MBKET เชื่อว่านักลงทุนกลุ่มนี้จะทยอยขายทำกำไร เพื่อปิดความเสี่ยงชั่วคราว เทียบ ณ ระดับปิดวันที่ 5 เม.ย. SET INDEX ยังคงสูงกว่าระดับเฉลี่ยเดือนธ.ค. 9.33% และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แข็งค่าอีก 4.58% ผลตอบแทนจากการลงทุนรวม ณ ปัจจุบัน 13.91%
3. ติดตามกรณีความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี: หลังเกาหลีเหนือพยายามกดดันเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง การเร่งให้นักการทูตของประเทศต่างๆ อพยพ เพราะไม่รับรองความปลอดภัย การปิดเส้นทางเขตเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศ กลายเป็นจุดที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเริ่มความระมัดระวังมากขึ้น ต่อกรณีดังกล่าว กระแสเงินทุนต่างชาติย่อมชะลอการลงทุนภายในเอเชียเกิดใหม่ จนกว่าจะมีความชัดเจนกรณีนี้
4. การรายงานงบ 1Q56 ของสหรัฐฯ เริ่มขึ้นแล้ว: Alcoa รายงานกำไรออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ EPS ในไตรมาสนี้ US$0.13 เนื่องจากยอดขายอลูมิเนียม และโลหะเบื้องต้น (Primary Metals) ปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าสภาพตลาดจะยังไม่ฟื้นตัวก็ตาม ด้วยประเด็นนี้ MBKET คาดว่า DJIA Futures จะปรับตัวดีขึ้นในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายวันนี้
5. เช้านี้ติดตามอัตราเงินเฟ้อของจีน: เดือนมี.ค. Bloomberg Consensus คาด 2.5% yoy จากเดือนก.พ.ที่ +3.2% yoy หากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลง จะช่วยลดแรงกดดันต่อมาตรการเข้มงวดสินเชื่อ และนโยบายการเงินในช่วงสั้นๆ ได้
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1. TRUE : ราคาปิด 7.60 บาท ราคาเหมาะสม 10.10 บาท
• MBKET คาดว่าราคาหุ้น TRUE มีแนวโน้มตอบรับเชิงบวกในวันนี้ หลังการประชุม กทค.ในวันศุกร์ที่ผ่านมา มีมติ 4 ต่อ 1 ว่าสัญญาระหว่าง BFKT กับ กสท.เพื่อให้บริการ 3G บนคลื่น 850 MHz ไม่ขัดต่อกฎหมายโทรคมนาคม ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็น Overhang มายาวนานกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา
• ขณะที่การอนุมัติของกทค.ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ Mobile Operator สามารถโอนย้ายลูกค้าภายใต้เลขหมายเดิม หรือ Mobile Number Portability ได้เพิ่มขึ้นจาก 4,000 รายต่อวัน เป็น 40,000 รายต่อวัน และสามารถดำเนินการผ่านช่องทาง เช่น SMS, Website ได้ จะส่งผลให้การย้ายลูกค้าจาก Truemove มายัง Truemove H ได้เร็วยิ่งขึ้น และส่งผลบวกให้ต้นทุน Regulatory Cost ลดลงอย่างต่อเนื่อง
• และเบื้องต้นคาดว่าผลประกอบการ 1Q56 จะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติลดลง yoy ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของเรา ว่าบริษัทมีแนวโน้มเข้าสู่จุดคุ้มทุนได้ใน 2H56 นอกจากนั้น การอ่อนค่าลงของเงินเยนถึง 10% Ytd จะส่งผลให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 300 ล้านบาท เนื่องจากมีหนี้สกุลเยนคงเหลือราว 10,000 ล้านเยน
• รวมทั้งมี Upside Risk ต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท หากสามารถจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ จะส่งผลให้บริษัทสามารถระดมทุนได้จำนวนมาก และส่งผลให้ฐานะการเงินของบริษัทดีขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ
What will DJIA move tonight? ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ ยอดค้าส่ง
ข่าวเด่น