ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 เมษายน 2556) ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 59.98 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 14,673.46 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5.54 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 1,568.61 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 15.61 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 3,237.86 จุด
 
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 3.57% หุ้นอินเทล ดีดตัวขึ้น 3.13% และหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.94% ส่งผลให้ในระหว่างวันนั้น ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 14,700 จุดเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
 
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจและดัชนีความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวลดลง  โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลดลง 0.3% จากเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.8% โดยสต็อกสินค้าเดือนกุมภาพันธ์ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 หรือในรอบ 17 เดือน และสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายบริษัทปรับลดสต็อกสินค้าคงคลัง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ปิโตรเลียม และเภสัชภัณฑ์
 
ขณะที่สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยดัชนีมุมมองเชิงบวกของธุรกิจขนาดเล็ก ลดลง 1.3 จุด สู่ระดับ 89.5 ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 โดยดัชนีปรับตัวผันผวนระหว่าง 86.5 - 94.5 นับตั้งแต่ที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน 2552